-
TANK OFF-ROAD ACADEMY ครั้งที่ 2 ตลุยเชียงใหม่!
Dec 16, 2025 -
เปิดสเปก ‘WEY G9’ พร้อมระบบขับเคลื่อนใหม่ ‘Hi4’
Nov 25, 2025 -
-
-
โรงไฟฟ้า ‘บีแอลซีพี’ โชว์บำบัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยจุลสาหร่ายสำเร็จ!
Dec 18, 2025 | TECHยุทธนา เจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) กล่าวถึงเป้าหมายการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า และ ความคืบหน้าโครงการวิจัยนวัตกรรมจุลสาหร่ายเพื่อบำบัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศว่า โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีนอกจากจะมีภารกิจหลักในการผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ด้วย ซึ่งการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างแท้จริงนั้น ไม่สามารถทำสำเร็จได้โดยวิธีใดวิธีหนึ่งต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ดังนั้นโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี จึงได้ดำเนินการศึกษาการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass) และแอมโมเนียคาร์บอนต่ำเป็นเชื้อเพลิงร่วม โครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture) รวมถึงโครงการวิจัยนวัตกรรมจุลสาหร่ายเพื่อดักจับและบำบัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า โดยโครงการวิจัยจุลสาหร่ายเป็นความร่วมมือระหว่างโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี และ บริษัท อัลกัล ไบโอ จำกัด (Algal Bio) บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่มีความเชี่ยวชาญด้านจุลสาหร่ายระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยการสนับสนุนจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO : เจโทร) และ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น (Ministry of Economy, Trade and Industry : METI) เพื่อศึกษาการนำจุลสาหร่ายที่เพาะเลี้ยงในระบบปิดมาดักจับและเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นชีวมวลที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ โดยข้อดีของการนำจุลสาหร่ายมาใช้ดักจับและบำบัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น มีข้อได้เปรียบหลายประการ อาทิ ดูดซับก๊าซได้โดยตรงจากแหล่งกำเนิดไม่ต้องผ่านกระบวนการดักจับแบบซับซ้อน มีศักยภาพด้านต้นทุนที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น เช่น DAC (Direct Air Capture) หรือการผลิตทางชีวเคมี สามารถนำชีวมวลที่ได้จากการเพาะเลี้ยงจุลสาหร่ายมาเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง (High Value Product) สามารถพัฒนาต่อยอดร่วมกับภาคธุรกิจและชุมชนเพื่อสร้างเป็นระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนสีเขียวในการนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุดทางเจโทร กรุงเทพฯ (JETRO, Bangkok) และ […]
-
HOKA ขยายพื้นที่ Active Lifestyle กับ 2 แลนด์มาร์กกลางกรุง!
Dec 15, 2025 | LIFESTYLE, SPORTHOKA แบรนด์รองเท้าเพอร์ฟอร์แมนซ์ระดับโลก เดินหน้ารุกตลาดปลายปี ด้วยการเปิดตัวสองสาขาใหม่ในกรุงเทพฯ ได้แก่ สยามเซ็นเตอร์ (Siam Center) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม และ เซ็นทรัลลาดพร้าว (Central Ladprao) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ต่อเนื่องจากความสำเร็จของการเปิดสาขาเอ็มควอเทียร์ (EmQuartier) เพื่อขยายการเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของคนเมือง ทั้งสายแฟชั่น สายสตรีท นักวิ่งจริงจัง มือใหม่หัดวิ่ง ไปจนถึงกลุ่มที่ใช้ชีวิตแบบ Active Lifestyle ที่มองหารองเท้าที่เท่ ใช้งานได้จริง และคุ้มค่าในเวลาเดียวกัน Siam Center – The Hybrid Flagship Store of Thailand HOKA สาขาสยามเซ็นเตอร์ถูกออกแบบให้เป็น Hybrid Flagship Store แห่งแรกของแบรนด์ในไทย ที่ถ่ายทอดตัวตนของ HOKA อย่างครบถ้วน และเป็นสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดของ HOKA ในประเทศไทย ด้วยพื้นที่โดยรวมกว่า 312 […]
-
GWM ปิดฉาก Motor Expo 2025 สุดปัง! กวาดยอดจอง 4,609 คัน
Dec 12, 2025 | RIDEGWM (Thailand) สร้างปรากฏการณ์ในงาน Motor Expo 2025 ด้วยยอดจองรวมทั้งสิ้น 4,609 คัน สะท้อนกระแสตอบรับอันร้อนแรงและความมั่นใจในแบรนด์ GWM จากผู้บริโภคชาวไทยที่มองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งเทคโนโลยี ความปลอดภัย รวมถึงความไว้วางใจในการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน โดยยอดจองสะสมในงาน Motor Expo 2025 นี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 124% 3 ไฮไลต์ที่ได้ความสนใจสูงสุดใน Motor Expo 2025 GWM TANK 300 DIESEL – รถยนต์ SUV สไตล์ Premium Boxy ยังคงความร้อนแรงด้วยยอดจองสูงที่สุดของ GWM ถึง 1,818 คัน ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตา พร้อมสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมการรับประกันเครื่องยนต์ดีเซลถึง 1 ล้านกิโลเมตร (หรือ 8 ปี) และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัย ที่มอบความคุ้มค่าคุ้มราคาให้กับแฟน ๆ ชาวไทย นอกจากนี้ […]
-
ฟอร์ด–มาสด้า ฉลอง 30 ปีโรงงานเอเอที ตอกย้ำบทบาทผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย!
Dec 3, 2025 | RIDEบริษัท ออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอเอที โรงงานร่วมทุนฟอร์ดและมาสด้า ฉลองการดำเนินงานในประเทศไทยครบ 30 ปี พร้อมตอกย้ำบทบาทสำคัญในการเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยเทคโนโลยีให้ก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ภายใต้นโยบาย ‘One AAT’ ที่หลอมรวมความเป็นหนึ่งเดียวของพนักงานทุกคนสู่ความเป็นเลิศ 3 ทศวรรษแห่งความภาคภูมิใจและรากฐานอันแข็งแกร่ง นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2538 ในฐานะบริษัทร่วมทุนระหว่างฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เอเอทีได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นโรงงานผลิตยานยนต์แบบครบวงจรที่ทันสมัย ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา เอเอทีไม่เพียงเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีบทบาทสำคัญในการวางมาตรฐาน และยกกระดับคุณภาพในการผลิตรถยนต์ แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนี้ ฟอร์ด และ มาสด้า มีการลงทุนที่เอเอที อย่างต่อเนื่อง สร้างงานให้กับพนักงานกว่า 5,400 คน และยกระดับทักษะแรงงานไทยสู่มาตรฐานสากล การจัดซื้อชิ้นส่วนภายในประเทศในสัดส่วนสูงถึง 67% ยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการในประเทศไทยและสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างเป็นรูปธรรม ความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจนี้ยืนยันด้วยยอดการผลิตรถยนต์สะสมมากกว่า 4 ล้านคัน ซึ่งเป็นเครื่องตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของเอเอทีในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ชั้นนำระดับโลก ‘ฝีมือการผลิต’ หัวใจขับเคลื่อนสู่ความเป็นเลิศระดับโลก เอเอทียึดมั่นในปรัชญา ‘ฝีมือและทักษะในการผลิต’ (craftsmanship) ที่เชื่อว่าพนักงานคือหัวใจของกระบวนการผลิตรถยนต์ พนักงานแต่ละคนไม่ใช่เพียงผู้ปฏิบัติงาน แต่คือ ‘ผู้สร้างสรรค์’ ที่ประกอบรถยนต์ทุกคันด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยทักษะความเชี่ยวชาญและความมุ่งมั่น ทำให้รถยนต์ทุกคันที่ออกจากสายการผลิตของเอเอทีมีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เอเอทีเติบโตอย่างมั่นคง พร้อมกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ทีมผู้บริหารหลักในทุกหน่วยงานของเอเอทีล้วนเป็นคนไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพและความสามารถของคนไทยให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในระดับสากล […]
-
GWM ระดมพนักงานกว่า 100 ชีวิต จัดสิ่งของบรรเทาทุกข์กว่า 1,200 ชุด ช่วยเหลือสู่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
Dec 3, 2025 | RIDEGWM (Thailand) เดินหน้าสานต่อพันธกิจยืนหยัดเคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์ จัดกิจกรรมเร่งด่วน ภายใต้โครงการ “GWM รวมหัวใจพร้อมก้าวผ่านทุกวิกฤตไปด้วยกัน ช่วยภัยน้ำท่วมใต้” โดยระดมพลังทีมผู้บริหารระดับสูง พนักงานจากสำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ และโรงงานระยอง รวมกว่า 100 คน ร่วมกันบรรจุสิ่งของบรรเทาทุกข์จำนวนกว่า 1,200 ชุด เพื่อส่งต่อให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง ที่กำลังเผชิญกับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น ณ GWM Smart Factory จังหวัดระยอง นำโดยทีมผู้บริหาร พร้อมด้วยพนักงานจากกรุงเทพฯ และระยอง ร่วมแรงร่วมใจบรรจุสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน อาทิ อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยารักษาโรค และของใช้ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถนำไปใช้บรรเทาความเดือดร้อนได้ทันที หลังจากเสร็จสิ้นการบรรจุ ได้ลำเลียงขึ้นรถเพื่อเตรียมจัดส่งลงสู่พื้นที่ภาคใต้ โดยจะส่งมอบให้หน่วยงานในพื้นที่เพื่อกระจายความช่วยเหลือไปยังชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวถึงความตั้งใจของโครงการว่า “GWM ขอแสดงความห่วงใยอย่างสุดซึ้งต่อพี่น้องชาวใต้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตอุทกภัยในครั้งนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนจำนวนมาก GWM ขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และขอส่งกำลังใจให้ทุกท่านก้าวผ่านเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้โดยเร็ว เราเชื่อว่าพลังของการร่วมมือและการช่วยเหลือกัน คือหัวใจสำคัญที่ทำให้สังคมของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น และ GWM จะยังคงเคียงข้างคนไทยในทุกวิกฤตเสมอ GWM มุ่งมั่นในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างองค์กร พนักงาน พาร์ทเนอร์ ลูกค้า และภาคประชาชน จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมไทย และช่วยให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกันตามเจตนารมณ์ของ GWM อย่างแท้จริง” #GWM #GWMThailand #SouthernFlood
-
“Botanica The Collector” สร้างนิยามใหม่แห่งการอยู่อาศัย
Dec 3, 2025 | LIFESTYLEภูเก็ต 2 ธันวาคม 2568 — โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า ผู้นำตลาดพูลวิลล่าระดับลักชัวรีของเมืองไทย เดินหน้าต่อยอดวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์ชุมชนที่อยู่อาศัยเหนือระดับให้ภูเก็ต พร้อมขับเคลื่อนจังหวัดสู่หมุดหมายไลฟ์สไตล์ครบวงจรชั้นนำของโลก ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญอาร์ตยิ่งใหญ่ “Botanica The Collector” พลิกโฉม Sales Gallery ให้กลายเป็น “อาร์ตแกลเลอรีที่มีชีวิต”พร้อมจัดเป็นนิทรรศการ Botanica Art Collection ชวนผู้หลงใหลการใช้ชีวิตเปี่ยมคุณค่า ร่วมสัมผัสนิยามใหม่ของการอยู่อาศัยที่ศิลปะไม่ใช่แค่ของตกแต่ง แต่เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนตัวตนของการใช้ชีวิต ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “ศิลปะ” คือหนึ่งในมิติสำคัญที่ช่วยหลอมรวมผู้คน สร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และยกระดับสังคมให้เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยนิทรรศการนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่จัดแสดงอย่างเป็นทางการของมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale Phuket 2025 ตอกย้ำบทบาทของโบทานิก้าฯ ในฐานะผู้สนับสนุนภูมิทัศน์ศิลปะร่วมสมัยของภูเก็ต ผ่านการจับมือกับเครือข่ายศิลปินท้องถิ่น คิวเรเตอร์ และแกลเลอรีชั้นนำ เพื่อขับเคลื่อนให้ภูเก็ตเป็นฮับทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืนของเมืองไทย นิทรรศการ Botanica Art Collection ครั้งนี้ นำเสนอผลงานระดับมาสเตอร์พีซของศิลปินไทยชั้นครูอย่าง ถวัลย์ ดัชนี, เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี และนที อุตฤทธิ์และศิลปินชื่อดังอีกมากมาย ตลอดจนไฮไลต์สำคัญอย่างผลงานระดับโลกโดยศิลปินฝรั่งเศสระดับตำนาน Pierre-Auguste Renoir ผู้เข้าชมจะได้ดื่มด่ำการจัดแสดงงานอาร์ตในหลากหลายโซน ทั้งภายใน Sales Gallery […]






