‘Porsche 919 Hybrid Evo’ กับการรวมทีมนักแข่งระดับตำนานบนสนาม ‘Nürburgring Nordschleife’
Jun 2, 2018

ในรายการแข่งขันรถยนต์ ทางเรียบ Nürburgring 24 ชั่วโมง ‘ปอร์เช่’ ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่บรรดาแฟนๆ ในสนามกว่า 200,000 ชีวิต ด้วยคู่นักแข่งระดับตำนาน: Timo Bernhard และ Hans-Joachim Stuck 2 นักแข่งมากฝีมือที่ได้รับเกียรติ ให้ขับรถแข่งปอร์เช่ 919 ไฮบริด อีโว และปอร์เช่ 956 ซี บนเส้นทางของสนามแข่งที่ยิ่งใหญ่ อันมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน Nordschleife หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม ‘Northern Loop’


รถแข่ง ปอร์เช่ 919 ไฮบริด คือยนตรกรรมสายพันธุ์แรง มีตำแหน่งแชมป์รายการ Le Mans และแชมป์รายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ FIA World Endurance Championship เป็นเครื่องการันตี นับตั้งแต่ฤดูกาล 2015 ถึง 2017 สืบทอดความเกรียงไกรของรถแข่งรุ่นโปรโตไทป์ในอดีตอย่าง ปอร์เช่ 956 ซี ซึ่งเคยคว้าแชมป์ overall มาแล้วในรายการแข่งขัน World Sportscar Championship ช่วงระหว่างปี 1982 ถึง 1984 และยังเป็นเจ้าของสถิติ ความเร็วต่อรอบสูงสุดบนสนาม Nordschleife จนถึงปัจจุบัน


การวิ่งบนเส้นทาง Nordschleife ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของรถแข่ง ปอร์เช่ 919 อีโว ที่ปรากฎตัวต่อสายตาสาธาณชน ทั้งนี้ปอร์เช่เพิ่งทำลายสถิติระยะเวลาต่อรอบที่เร็วที่สุดบนสนาม Spa-Francorchamps ไป เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา จากฝีมือการขับของ Neel Jani (สวิสเซอร์แลนด์) นักแข่งทีมโรงงาน


ซึ่งเวลาที่ Neel Jani ทำได้ภายในระยะทาง 7.004 กิโลเมตร ในเวลา 1:41.770 นาที การขับขี่ของเขาในรอบสนามนี้เร็วกว่าที่รถแข่ง Formula One เคยทำได้ ทำลายสถิติก่อนหน้าลงอย่างราบคาบด้วยเวลา ที่เร็วกว่า 0.783 วินาที จากฝีมือของ Lewis Hamilton (สหราชอาณาจักร) ในรถแข่ง Mercedes F1 W07 Hybrid


ผลจากเวลาที่ทำได้ทำให้ Neel Jani คว้าอันดับโพลไปในการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่งของสนามนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว สำหรับการโชว์ตัวที่ Nordschleife นับเป็นจุดหมายลำดับที่ 2 ของกิจกรรม ‘919 Tribute Tour’ อย่างไรก็ตาม งานนี้ไม่ต้องอาศัยนาฬิกาจับเวลาเข้ามาตัดสินความเหนือชั้นของรถแข่งทั้ง 2 คัน การขับขี่รอบสนามจะดำเนินไปด้วย การนำของรถ safety car เป็นการวิ่งผ่านจุดปล่อยตัวและเส้นชัยในลักษณะเดียวกับเส้นทางที่ใช้ในการแข่งขันรายการ 24 ชั่วโมง


ทีมแข่งปอร์เช่ รวมทั้ง Timo Bernhard และ Hans-Joachim Stuck พร้อมด้วย รถแข่งทั้ง 2 คันล้วนมีความคุ้นเคย และใกล้ ชิดกับสนาม Nürburgring และเส้นทาง Nordschleife เป็นอย่างดี

Timo Bernhard นักขับรถแข่งมืออาชีพชาวเยอรมัน วัย 37 ปี คือหนึ่งในยอดฝีมือผู้ครองตำแหน่งแชมป์ รายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ FIA World Endurance และในระหว่างการแข่งขันฤดูกาล 2017 เขายังสามารถเอาชนะ รายการ Le Mans 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังคว้าชัยในตำแหน่งชนะเลิศเป็นรายการที่ 3 จากการแข่งขัน Nüburgring 6 ชั่วโมง รวมทั้งความสำเร็จในอีกหลายรายการในฤดูกาล 2015 และ 2016 จากการประจำการหลังพวงมาลัย ของรถแข่งปอร์เช่ 919 ไฮบริด ผลงานอันยอดเยี่ยมอื่นๆ ที่เขาสั่งสมไว้ได้แก่การคว้า อันดับหนึ่งได้ถึง 5 ครั้งจากการแข่งขันรายการ Nürburgring 24 ชั่วโมง ภายใต้สังกัดทีมแข่งปอร์เช่ซึ่งเป็นสถิติผู้ชนะเลิศสูงสุดประจำรายการฤดูกาล 2018 นี้ เขาลงมือสร้างทีมแข่งของตนเองขึ้นมา โดยใช้ชื่อทีมว่า Team75 Bernhard เข้าร่วมการประลองความเร็วในระดับนานาชาติด้วยรถแข่งปอร์เช่ 911 จีที 3 อาร์


สำหรับฤดูกาลแข่งขันปัจจุบัน Bernhard ในฐานะนักขับทีมโรงงานปอร์เช่ ซึ่งเขาได้ผันตัวเองเข้าลงชิงชัยในการแข่งรุ่น GT Masters และรุ่น GTE ของรายการ Le Mans ได้กล่าวไว้ว่า “Nordschleife เปรียบได้กับสนามหลังบ้านของผม ในวัยเด็กผมเคยท่องเที่ยวไปทั่วเทือกเขา Eifel พร้อมกับคุณพ่อ ไม่มีสนามแข่งแห่งใดจะเสมอเหมือนถนนที่เต็มไปด้วยความคดโค้งเป็นระยะทางมากกว่า 20 กิโลเมตรของที่นี่” นอกจากนี้ Timo Bernhard ยังได้กล่าวระลึกถึงความยิ่งใหญ่ของ Stefan Bellof อีกหนึ่งตำนานนักขับผู้ซึ่งเสียชีวิตในสนาม Spa ในปี 1985


“ฝีไม้ลายมือที่ยอดเยี่ยมของ Stefan Bellof นั้น ไม่ใช่สิ่งเดียวของเขาที่ผมประทับใจ Stefan Bellof เป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้รู้จักกับเขา จะต้องอดไม่ได้ที่จะเลื่อมใสศรัทธาในตัวเขา การขับบนเส้นทาง Nordschleife อันเป็นสถิติที่ยังไม่มีใครสามารถทำได้ในปี 1983 นั้นเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติความเป็นมาของรถแข่งปอร์เช่ 956 ซี พร้อมๆ กับรถแข่งปอร์เช่ 919 อีโว”

วันที่ 28 พฤษภาคม 1983 ในระหว่างการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมแข่งขันรายการระยะยาว 1000 กิโลเมตร Bellof ขับรถแข่งรอบสนามความยาวรวม 20.835 กิโลเมตรในขณะนั้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือตัวเลขความเร็วเฉลี่ยมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยพละกำลังที่ได้จากเครื่องยนต์ 6 สูบนอน ขนาดความจุ 2,649 ซีซี พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบ ชาร์จคู่ ขุมพลังที่ประจำการอยู่ในปอร์เช่ 956 ซี ให้กำลังสูงสุดถึง 620 แรงม้า ในการแข่งขันครั้งนั้น Bellof  ได้ขึ้นเป็นผู้นำจนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรงในบริเวณที่มีชื่อว่า ‘Pflanzgarten’ แต่เขาสามารถเดินออกมาจากสนามโดยไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น 1 ปีหลังจากนั้นในฤดูกาล 1984 เขากลับมาล้างตาได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยการเอาชนะการแข่งขัน Nürburgring 1000 กิโลเมตร โดยเป็นการขับขี่ร่วมกับเพื่อน นักแข่งชาวอังกฤษ Derek Bell ในรถแข่งปอร์เช่ Rothmans 956 C


ในช่วงการแข่งขัน World Endurance Championship ฤดูกาล 1984 นั้น มีครั้งหนึ่งที่ Stefan Bellof ได้ขับรถแข่ง ‘ปอร์เช่ 956’ ร่วมกับนักขับชาวเยอรมันที่มีนามว่า Hans-Joachim Stuck ถึงแม้ว่าการลงสนามครั้งนั้น ตัวรถจะเกิดความเสียหายจากการขับขี่ของ Stuck และจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซม แต่ทั้งคู่กลับสามารถเอาชนะ ในรายการ Imola 1000-กิโลเมตรได้ “การแข่งที่อิตาลีในวันนั้นมีความสำคัญต่อผมอย่างมาก”


Stuck ในวัย 67 ปี กล่าวย้อนรำลึกถึงอดีต “ในขณะนั้นตัวผมเองยังไม่คุ้นเคยกับรถแข่งปอร์เช่ 956 (Porsche 956) และเป็น Stefan ที่ช่วยแนะนำผมถึงวิธีการขับรถสุดพิเศษคันนี้ ในวันที่ผมเข้าร่วมกับทีมแข่งปอร์เช่ เป็นวันที่ผมได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า เพราะเหตุใดรถแข่งคันนี้ถึงไร้คู่ต่อกร คุณไม่เคยต้องกังวลเรื่องประสิทธิภาพของเกียร์ ระบบเบรกทำงานได้อย่างสุดยอด และต้องยกประโยชน์ให้ตัวรถที่สร้างแรงกดระดับมหาศาล คุณสามารถขับรถคันนี้เข้า โค้งได้ด้วยความเร็วสูงมากจนไม่น่าเชื่อ ราวกับว่ารถคันนี้ถูกยึดติดกับพื้นถนนก็ว่าได้ สำหรับผมมันเป็นประสบการณ์ และโอกาสที่ดีระดับ world-class เมื่อได้ขับปอร์เช่ 956 บน Nordschleife อีกครั้ง และเป็นความรู้สึกที่ยากจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด”


นอกจากความสำเร็จมากมายที่ Stuck ได้สร้างเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการคว้าชัยชนะ 2 ฤดูกาลในรุ่น overall ที่ Le Mans เมื่อปี 1986 และ 1987 ด้วยการขับขี่ปอร์เช่ 962 C รถแข่งผู้สืบทอดตำนานของปอร์เช่ 956 เขายัง สามารถเอาชนะในรายการ Nürburgring 24 ชั่วโมง อีก 3 สมัย ในขณะที่เป็นนักแข่งในสังกัดทีม BMW


ทั้งนี้รถแข่งปอร์เช่ 956 ซี คันที่ Stuck ขับโชว์รอบสนาม Nürburgring มีหมายเลขตัวถัง 005 เคยเป็นรถแข่งคู่ใจของ Jacky Ickx (เบลเยี่ยม) และ Jochen Mass (เยอรมัน) โดยเขาทั้งคู่ขับขี่รถคันดังกล่าว เข้าร่วมการแข่งขันรายการ world championship ในฤดูกาล 1984 หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมหน้ารถถึงเปลี่ยนจากคำว่า ‘Rothmans’ มาเป็นคำว่า ‘RACING’ ด้วยเหตุผลเชิงพาณิชย์คำว่า Rothmans ซึ่งเป็นยี่ห้อบุหรี่จึงไม่สามารถเอามาทำโฆษณาได้ในปัจจุบันจึงปลี่ยนเป็นคำว่า ‘Racing’ แทน


เช่นเดียวกับ 956 ปอร์เช่ 919 ไฮบริด คือรถแข่งสมรรถนะสูงที่เปี่ยมไปด้วย นวัตกรรมล้ำสมัยที่สุดในช่วงเวลาที่มันโลดแล่นอยู่บนสนาม ความสำเร็จของรถแข่ง คลาส 1 Le Mans Prototype เกิดขึ้น หลังการเข้าร่วมประลองความเร็วในรายการ FIA WEC ตั้งแต่ฤดูกาล 2014 จวบจนกระทั่งหน้าที่ของมัน ถูกยุติลงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2017


รถแข่งคันนี้ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ V4 ที่มีขนาดความจุกระบอกสูบเพียง 2.0 ลิตร พร้อมระบบชาร์จพลังงานแปรผันที่แตกต่างกันถึง 2 รูปแบบ หนึ่งคือ พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากระบบ เบรกของเพลาคู่หน้า และ 2 คือพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากการระบายไอเสียไปหมุนกังหันเทอร์ไบน์ด้วยความเร็วสูงกว่า 130,000 รอบต่อนาที พลังงานจาก 2 ระบบดังกล่าวจะได้รับการเก็บสะสมไว้ชั่วคราวในแบตเตอรี่ liquid-cooled lithium ion เครื่องยนต์สันดาปภายในรับหน้าที่ขับเคลื่อนเพลาคู่หลัง ในขณะที่ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรับบทบาทขับเคลื่อนเพลาคู่หน้า นั้นหมายความว่ารถแข่งปอร์เช่ 919 ไฮบริด สามารถเร่งออกตัวได้อย่างเหนือชั้นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ four-wheel drive และได้รับพลังงานย้อนกลับส่วนหนึ่งจากการทำงาน ของระบบระบายไอเสีย


สำหรับการเตรียมพร้อมเพื่อทำลายสถิติความเร็วในครั้งนี้ ปอร์เช่ใช้พื้นฐานจากตัวรถที่คว้าแชมป์โลกในฤดูกาล 2017 ปรับแต่งเพิ่มเติมด้วยแนวทางการพัฒนาที่จัดเตรียมไว้เพื่อรถที่จะลงแข่งขันในรายการ 2018 WEC แต่ยังไม่ได้ใช้จริง เนื่องจากการถอนตัวจากรายการดังกล่าวหลังจากเสร็จสิ้นฤดูกาล 2017 นอกเหนือจากนี้คืออุปกรณ์เพิ่มเติมด้านอากาศ พลศาสตร์ที่ผลิตขึ้นใหม่

yodel

yodel
โยเดลผู้มาจากดาวอังคาร เราคือผู้ชื่นชอบเรื่องรถยนต์ ท่องเที่ยว กินดื่ม แต่ก็ยังรักการปั่นจักรยานเพราะสามารถพาไปท่องเที่ยว กินดื่มได้เหมือนกัน...วันว่างยังชอบดูหนัง ฟังเพลง และที่ขาดไม่ได้คือวาดภาพ และประกอบแบบจำลอง... IG: instagram.com/yodel FB: facebook.com/yomodels

Subscribe me