ตื่นขึ้นมาพร้อมความสดใสรับวันใหม่ (ความเดิมตอนที่แล้ว) หลังจากที่เมื่อวานเราได้เดินทางไกลจากสนามบินอุบลราชธานีด้วยสุดยอดรถยนต์เอนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ผ่านทางฝุ่น และลำธารน้อยใหญ่เพื่อไปเที่ยวชมความอลังการของน้ำตกแซปองไล และได้มากางเต็นท์พักแรมกันบริเวณไม่ไกลจากน้ำตกแซปองไลเท่าไรนัก
การนอนในเต็นท์ที่ติดอยู่บนหลังคารถนั้นนอกจากความสะดวกในเรื่องของการขนย้ายแล้วยังให้ความปลอดภัยจากสัตว์เล็กใหญ่ที่จะมาทำร้ายเรายามค่ำคืน แถมยังง่ายในเรื่องของการกางออกและจัดเก็บสะดวกรวดเร็ว เหมาะกับเหล่าบรรดาพ่อบ้านที่มักจะเข้าบ้านไม่ได้เมื่อเมียทำโทษ
พระอาทิตย์ขึ้นแล้วพวกเรารีบเก็บของพร้อมที่จะออกเดินทาง เพราะกิจกรรมที่เราจะทำวันนี้มีมากมายเสียเหลือเกิน ตารางคร่าวๆ ที่จะทำวันนี้คือเราจะไปทำความดีต่อสังคมโดยการไปมอบสิ่งของที่จำเป็นกับเด็กๆ ในโรงเรียนสมบูนไชย ซึ่งห่างไกลความเจริญ หลังจากนั้นเราจะไปเล่นซิปไลน์ท้านรกกันที่น้ำตกตาดฟาน พร้อมแล้วก็ไปกันเลยยยย
จากจุดที่เราพักไม่ไกลนักมีน้ำตกที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งที่เราไม่ควรพลาดเพราะใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาทีแล้วจะรออะไร…
น้ำตกแซพระ เป็นน้ำตกอีกที่ๆ น้อยคนที่จะรู้จักและได้มาเยือนเพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้ามา (นอกเสียจากจะขับรถที่มีระบบช่วงล่างที่ดี และควรเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ) แต่ก็เริ่มมีบริษัททัวร์ทั้งไทย และ สปป.ลาว จัดทริปพาเข้ามาเหมือนกัน
มองจากด้านหน้าว่ายิ่งใหญ่แล้ว มองจากมุมบนด้วยกล้องจากเครื่องบินโดรนยิ่งเห็นความอลังการของธรรมชาติ พอดีช่วงที่เรามาไม่ใช่หน้าน้ำ ถ้าเป็นหน้าฝนล่ะก้อ จะสวยงามขนาดไหน แต่โอกาสจะเข้ามาในหน้าฝนน่าจะยากมากเพราะนอกจากจะมีรถที่ดีพร้อมแล้วทักษะการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดก็ต้องเยี่ยมยอดอีกด้วย ไม่งั้นคงมีกลิ้งตกเขาตกห้วยเป็นแน่
และแล้วพวกเราก็ได้มาเดินทางถึงโรงเรียนสมบูนไชย แค่ทางเข้าโรงเรียนเราก็ได้ทดสอบระบบช่วงล่างไปในตัว ระบบช่วงล่างของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ผสานการทำงานได้อย่างลงตัวแม้ล้อด้านนึงจะลอยจากพื้นก็ตาม … ของแบบนี้เล่าไปใครจะเชื่อมันต้องลองเอง!
คงมีคำถามนี้อยู่ในใจใครหลายๆ คนว่าทำไม ฟอร์ด ประเทศไทย ไม่มาพัฒนา หรือบริจาคสิ่งของให้กับโรงเรียน หรือชุมชนผู้ยากไร้ในเมืองไทยก่อนทั้งๆ ที่เมืองไทยก็ยังมีความต้องการเรื่องพวกนี้อยู่ ผมตอบตรงนี้แทน ฟอร์ด ประเทศไทย ได้เลยว่าเค้าก็ทำสาธารณประโยชน์ในไทยทุกครั้งที่ออกทริปเหมือนกันนะแหละ — ตอบแบบไม่ได้ค่าโฆษณา ว่าจะเข้าไปขอโฆษณาอยู่ — แต่พอดีทริปนี้มาลุยกันใน สปป.ลาว เค้าก็เลยมาทำประโยชน์ให้ที่นี้โดยผ่านการเลือกจากเจ้าหน้าที่ของทาง สปป.ลาวเอง
การมาของคาราวาน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ของพวกเราไม่ใช่แค่เพียงเอาของมามอบให้แล้วก็จากไป แต่พวกเรายังมาร่วมในการพัฒนาโรงเรียนอีกด้วย ใครถนัดอะไรก็แยกย้ายกันไปทำ สื่อบางคนถนัดงานช่างก็ไปช่วยกันเอาเสาประตูฟุตบอลมาประกอบ บางคนถึงขั้นไปช่วยมุงหลังคาสังกะสี ส่วนตัวผมนั้นผู้ชายธาตุดินก็ไปปลูกต้นไม้สิคร๊าบบบบบบ
เราเดินทางกันต่อเพื่อมุ่งหน้าสู่สุดยอดน้ำตกและสุดยอดกิจกรรมสุดท้าทาย ณ น้ำตกตาดฟาน ในเส้นทางที่ คาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ กำลังไปนั้นต้องเจอกับเส้นทางที่ลาดชันและโค้งมากมายแต่ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ก็สามารถผ่านไปได้อย่างสบาย –ช่วงขายของ…ผ่าม!– ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อการขับขี่แบบออฟโรดอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่ช่วยควบคุมการขับลงเขาที่เสริมแรงเบรกในระดับความเร็วต่อเนื่อง และระบบช่วยการออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถบนทางลาดชันได้อย่างมั่นใจ
น้ำตกตาดฟาน (Tad Fane Waterfall) ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในแขวงจำปาสัก และยังมีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศลาวอีกด้วย น้ำตกแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งท่องเที่ยวใน Dong Hua Sao National Protected Area ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบสูงโบโลเวน (Bolaven Plateau) เมืองปากซอง (Paksong) แขวงจำปาสัก ประเทศลาว ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองปากเซ (Pakse) และไม่ไกลจากประเทศไทยเท่าไร
และเหตุที่ทำให้เรามา ณ จุดนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเกาะรั้วดูความยิ่งใหญ่ของน้ำตกตาดฟานอย่างไกลๆ แค่นั้น มาถึงนี่ทั้งทีเราก็ต้องมาเล่น Zipline สิ Zipline ของที่นี้ได้ชื่อว่าสนุก ตื่นเต้น หวาดเสียว ติดอันดับต้นๆ ของโลก ผมในฐานะคนที่ชอบเล่นอะไรอย่างนี้อยู่แล้วจะพลาดได้ไง เอาจริงๆ ยอมรับตรงๆ เลยดีกว่าจริงๆ แล้วนั้นผมเป็นคนกลัวความสูงมากและครั้งนี้จะเป็นการเล่น Zipline ครั้งแรกในชีวิตของผม
หลังจากใส่อุปกรณ์ครบแล้วทุกคนก็ต้องไปเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ต่างๆ จากสลิงที่ผูกอยู่ระหว่างต้นไม้เตี้ยๆ สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดคือเรื่องการเบรกเพราะถ้าเราจับไม่ถูกต้องนอกจากจะเบรกไม่อยู่แล้วมือเราอาจจะแหกได้
น้ำตกตาดฟาน เป็นน้ำตกสูงใหญ่ มีลักษณะเป็นสายน้ำ 2 สาย ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันสู่กลางหุบเขา โดยสายน้ำดังกล่าวไหลมาจากแม่น้ำสองสาย คือ Champi River และ Pak Koot River น้ำจำนวนมากมายจะไหลผ่านป่าเขาแล้วไหลดิ่งลงหน้าผาสูงชัน 90 องศา สู่แอ่งน้ำกลางหุบเขาเบื้องล่าง ด้วยความสูงกว่า 120 เมตร
เมื่อตัดสินใจออกตัวไปแล้วเราก็ต้องเล่นจนจบระยะทาง ช่วงแรกยาวประมาณ 450-500 เมตร เป็นระยะทางเกือบครึ่งกิโลเมตรที่ช่างนานแสนนาน เป็นความเสียวที่ยาวนานที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา หลังจากผ่านเส้นแรกไปแล้วก็ยังมีอีก 4 เส้นให้โหนวนไปจนครบรอบ ระหว่างทางก็มีทั้งปีนต้นไม้ เดินขึ้นเขา กว่าจะจบรอบลงมาก็เล่นเอาขาสั่นปากซีดไปตามๆ กัน …สรุปคือถ้ามาถึงตรงนี้ผมอยากให้ได้ลองจริงคุ้มมมมม…รอดมาแล้วพูดอะไรก็ได้
หลังจากนั่งพักให้ขาหายสั่นจากการเล่น Zipline แล้วที่สุดท้ายที่เราจะไปเยี่ยมในวันนี้คือหมู่บ้านชนเผ่า “ตะโอย” ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนเผ่าที่อาศัยอยู่อย่างเรียบง่ายบริเวณใกล้เชิงเขาท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม
ชาวตะโอยมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ด้วยจารีตประเพณีการบูชาเจ้าอย่างเคร่งครัดและวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชาวบ้านยังนิยมปลูกไม้อุตสาหกรรม ไม้ผล กาแฟ เลี้ยงสัตว์ใหญ่ รวมถึงงานหัตถกรรม และงานผ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดเวียงจันทน์
หมดไปอีกวันกับสิ่งที่ได้ในวันนี้คืออิ่มบุญจากการได้ทำสาธารณะประโยชน์ที่โรงเรียนสมบูนไชย ได้เสียว และเหนื่อยสุดๆ กับการเล่น Zipline ชมความงามของน้ำตกตาดฟาน และการเยี่ยมชมไร่กาแฟของหมู่บ้านเผ่าตะโอย ถ้าใครเป็นคอกาแฟคงได้ขนเมล็ดกาแฟสดๆ จากไร่กลับบ้านสัก 5-6 กิโล และในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายของทริปตะลุยลาวใต้กับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์แล้ว ไว้ตอนหน้าเราไปเที่ยวกันอีก วันนี้ราตรีสวัสดิ์