เพราะสุขภาพดีสร้างได้จากวินัยและการออกกำลังกาย ล่าสุด บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (CMG) ประกาศเปิดตัวเทรนนิ่งวอทช์รุ่นใหม่ G-SQUAD GBD-H1000 ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ห้าแบบ ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลการออกกำลังกาย การเผาผลาญแคลอรี่ รวมถึงข้อมูลเส้นทางในการออกกำลังกาย นอกจากนี้ CASIO G-SHOCK ยังได้นำเสนออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสายรักสุขภาพอย่าง G-SQUAD GBD-100 Training Series ที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย พร้อมความต้านทานแรงกระแทกและฟีเจอร์อัจฉริยะที่แม่นยำกว่าเดิม
G-SQUAD GBD-H1000 มาพร้อมระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะทั้งหมด 5 ตัว ได้แก่
-
- เซ็นเซอร์อัตราการเต้นหัวใจ (HRM)
- เซ็นเซอร์วัดระดับความสูง (Altitude)
- เซ็นเซอร์วัดความกดอากาศ (Barometric Pressure Altitude Sensor)
- เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ (Thermo Sensor)
- เซ็นเซอร์เข็มทิศ (Compass)
- เซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว (Accelerometer Sensor)
รวมถึงรองรับการคำนวณค่าการใช้ออกซิเจนสูงสุด (VO2max) ที่ใช้อัตราการเต้นของหัวใจและความเร็วเพื่อเป็นตัวชี้วัด บ่งบอกถึงความแข็งแรงของหัวใจและปอดของผู้สวมใส่ และมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อต้องการเพิ่มความทนทานในการวิ่งและกิจกรรมการเทรนนิ่งอื่นๆ โดยการวัดค่าและวิเคราะห์ข้อมูลนี้ สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนในแบบไร้สายผ่านระบบ Bluetooth® เพื่อใช้งานควบคู่กับแอปพลิเคชั่น G-SHOCK MOVE
นอกจากนี้ นาฬิกา G-SQUAD GBD-H1000 ยังมาพร้อมความสามารถในการรับสัญญาณ GPS ระบุตำแหน่งและพิกัด ที่ได้ถูกพัฒนามาเพื่อเพิ่มความแอดวานซ์ในการทำกิจกรรมให้แก่ผู้สวมใส่ และเมื่อใช้ร่วมกับระบบจับเวลาก็จะสามารถติดตามข้อมูลการวิ่ง เช่น ระยะทาง ความเร็ว ความเร็วเฉลี่ย และอื่นๆ ได้ อีกทั้งยังมีการเก็บข้อมูลระยะทางและการก้าวเดิน (Step Counter) นานสูงสุด 12 ชั่วโมง ช่วยให้การเก็บข้อมูลของกิจกรรมเป็นไปได้อย่างง่ายดายและเรียลไทม์
ในแง่ของดีไซน์ G-SQUAD GBD-H1000 ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายด้วยจอ memory-in-pixel (MIP) LCD ที่ให้ความละเอียดและค่าคอนทราสต์สูง ทำให้สามารถแสดงผลลัพธ์ได้ชัดเจนแม้ขณะทำกิจกรรมกลางแจ้งที่แสงแดดจ้าก็ตาม กรอบตัวเรือนถูกดีไซน์ให้แสดงสัญลักษณ์ของโหมดต่างๆ อย่างชัดเจน และปุ่มกันลื่นขนาดใหญ่เพื่อการใช้งานที่คล่องแคล่ว ทั้งนี้ สายนาฬิกานั้นมีส่วนผสมของวัสดุยูรีเทน ให้ความกระชับรับกับข้อมือ ทำให้สวมใส่และใช้งานได้ในทุกวันและทุกสถานการณ์ เหมาะอย่างยิ่งกับการออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างการวิ่ง หรือกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวเยอะ พร้อมกันน้ำลึกได้ 200 เมตร ด้วยน้ำหนักตัวเรือนเพียง 101 กรัม
นอกจากนี้ นาฬิกา G-SQUAD GBD-H1000 ยังมีฟีเจอร์และฟังก์ชั่นที่ชาญฉลาดอีกมากมายสำหรับผู้ที่รักการออกกำลังกาย อาทิ การตั้งค่าเป้าหมายที่ต้องการและการวิเคราะห์การออกกำลังกาย โดยการบันทึกข้อมูลในแต่ละครั้งบน สมาร์ทโฟน ช่วยในการสร้างวินัยและตั้งเป้าหมายในการออกกำลังกาย รวมถึงฟังก์ชั่นการสื่อสารพื้นฐานผ่านBluetooth® low energy ที่ครอบคลุมขอบเขตของสัญญาณได้สูงสุดถึง 2 เมตร
G-SQUAD GBD-H1000 พร้อมเปิดตัวทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำขาว / สีดำ / สีแดง / สีแดงดำ ในราคา 14,900 บาท โดยทุกสีจะมีความสามารถด้านความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนตามมาตรฐาน G-SHOCK อีกทั้งยังสามารถชาร์จไฟผ่าน USB และจากพลังงานแสงอาทิตย์โดยตรงเพื่อความสะดวกต่อการใช้งานในทุกๆ วัน
อีกหนึ่งรุ่นที่ห้ามพลาดสำหรับสายรักการออกกำลังกายและเทรนนิ่ง ได้แก่ G-SQUAD GBD-100 Training Series ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับเซ็นเซอร์วัดความเร็ว และวัดระยะทางที่แม่นยำกว่าเดิม ผ่านระบบ GPS สะท้อนความเป็นเทรนนิ่งวอทช์ที่เหนือกว่ากับความสามารถในการวัดความเร็ว นับจำนวนก้าว (pedometer) แบบอัตโนมัติ เพื่อคำนวณการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย การจับเวลาที่สามารถแบ่งรอบได้สูงสุดถึง 5 รอบต่อหนึ่งครั้งแบบอัตโนมัติ พร้อมฟีเจอร์เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับเซ็นเซอร์วัดความเร่งในตัวนาฬิกา โดยใช้ความแม่นยำของจีพีเอสในสมาร์ทโฟนเป็นตัววัดระยะทาง
G-SQUAD GBD-100 Training Series สะท้อน DNA ของแบรนด์ G-SHOCK อย่างครบถ้วน ในทั้งรูปลักษณ์และฟังก์ชัน โดยสามารถทนทานต่อแรงตกกระแทกจากตึกสูง 3 ชั้น ด้วย Technology ของแผ่นครอบฝาหลังจากวัสดุเรซิน ซึ่งทำจากวัสดุคุณภาพสูงเสริมด้วยใยแก้ว รูปทรงโค้งของผิวช่วยลดการระคายเคืองเมื่อสัมผัสกับข้อมือ อีกทั้งยังสามารถกันน้ำลึกได้ถึง 200 เมตร ซึ่งซีรีย์นี้แตกต่างจากรุ่นอื่นที่มีการผลิตออกมาก่อนหน้าในด้านการเชื่อมต่อระบบ Bluetooth® เข้ากับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชั่น G-SHOCK MOVE เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการโทรและข้อความเข้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้ขณะออกกำลังกาย
หน้าจอวัดผลออกกำลังกาย ที่เชื่อมต่อได้กับสมาร์ทโฟนผ่านระบบ Bluetooth® นอกจากนี้ G-SQUAD GBD-100 ยังมาพร้อมกับความคมชัดของจอ LCD แบบ MIP ที่มีความละเอียดสูงในการแสดงข้อมูลเพื่อความสะดวกต่อการอ่าน อายุการใช้งานที่ยาวนานของแบตเตอรี่ถึง 2 ปีโดยไม่ต้องชาร์จ และดีไซน์ของตัวเรือนที่ได้รับการออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมสายเรซินที่สามารถปรับความกระชับได้เพื่อความสะดวกสบายในการสวมใส่ มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สายสีดำเหลือบแดง, สายสีดำเหลือบน้ำเงิน และสายสีน้ำเงิน ในราคาที่สามารถจับต้องได้ เพียง 7,000 บาท ถือได้ว่า GBD-100 รุ่นใหม่นี้ ตอบโจทย์ความต้องการในการออกกำลังกายที่หลากหลาย ตั้งแต่การจัดการสุขภาพประจำวันจนถึงความทนทานในการวิ่งที่พัฒนามากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการทำกิจกรรมในแต่ละวัน