บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) เดินหน้าผลิตและพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “ยามาฮ่า E01” ในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2019 และได้เริ่มทำการทดสอบการใช้งานจริงในประเทศญี่ปุ่น ก่อนส่งต่อแผนการทดสอบสมรรถนะ “ยามาฮ่า E01” มายังประเทศไทยเป็นที่แรก รวมถึงอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไต้หวัน และในทวีปยุโรป
ยามาฮ่า E01 รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าขนาด 125 ซีซี ได้เผยโฉมสู่สายตาชาวไทยเป็นครั้งแรกที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมชมภายในงาน พร้อมกันนี้ ทางยามาฮ่า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ยังได้มีการจัดงาน Global Press Conference YAMAHA E01 เพื่อเชิญสื่อมวลชนจากประเทศญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวัน รวมถึงประเทศไทย เข้าร่วมในการประชุมเพื่อทราบข้อมูลของผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับกิจกรรม E01 POC (Proof of concept) ในประเทศไทยจัดขึ้นเพื่อพัฒนายามาฮ่า EV ให้ตรงตามความต้องการของคนไทย รวมทั้งการนำเสนอความพิเศษของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจากยามาฮ่า ผ่านกิจกรรม E01 POC เพื่อนำข้อมูลจากการทดสอบขับขี่ มาพัฒนาและต่อยอดต่อไปภายในอนาคต
โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ได้เริ่มทำการทดสอบ “ยามาฮ่า E01” ในรูปแบบการใช้งานจริงขึ้น 2 ครั้งในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดภูเก็ต บนเส้นทางที่ทำการทดสอบผ่านความสูงชันของสภาพภูมิประเทศทางภาคเหนือที่เป็นภูเขาอยู่ในระดับความชัน 12-15 องศา และระดับความชันที่สูงที่สุดในประเทศไทยในระดับ 19 องศาที่ อำเภอป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ซึ่ง “ยามาฮ่า E01” แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการขึ้นทางชันได้เป็นอย่างดี
การทดสอบมีทั้งขับขี่คนเดียวและมีผู้โดยสาร พร้อมทั้งทำการทดสอบแบบ Stop and Go จอดและเดินรถ ระหว่างทางลาดชัน “ยามาฮ่า E01” ยังคงตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการทดสอบขับขี่ในทางไกลอย่างต่อเนื่อง พร้อมใช้ Power Mode ที่ดึงกำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าออกมาใช้งานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งระบบแบตเตอรี่ของ “ยามาฮ่า E01” ยังคงสามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ไม่ส่งผลให้เกิดความร้อนสูง และตัดกำลังการส่งไฟฟ้าไปยังระบบขับเคลื่อนให้กลายเป็นระบบ Safe Mode อีกด้วย นอกจากนั้น การทดสอบขับขี่ในขณะฝนตกก็ยังคงดำเนินการทดสอบได้อย่างราบรื่น
ด้วยจุดเด่นต่างๆ ของ “ยามาฮ่า E01” ที่มีความสะดวกสบายและมีขนาดตัวรถเทียบเท่ารถจักรยานยนต์คลาส 125 ซีซี (อ้างอิงจากยามาฮ่า NMAX 125 ในยุโรป) ตำแหน่งท่านั่งขับขี่ สะดวกสบาย โดยความยาวของรถ 1,930 มิลลิเมตร มีที่เก็บของใต้เบาะ ขนาดความจุ 23 ลิตร สามารถเก็บหมวกกันน็อกได้ ความสูงเบาะ 755 มิลลิเมตร ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขึ้นลงได้อย่างสะดวก และขาถึงพื้นได้อย่างมั่นใจ เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน สามารถขับขี่ได้ด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะทาง 100 กิโลเมตร ควบคุมการขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลเช่นเดียวกับรถจักรยานยนต์ทั่วไป ใช้ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ โดย Vehicle Control Unit, Battery Management System, Motor Control Unit พร้อมระบบเบรก Regenerative Brake ที่จำลองความรู้สึกของ Engine Brake เพื่อให้ลดความเร็วได้อย่างนุ่มนวล มีระบบป้องกันล้อลื่นไถล Traction Control System รวมทั้งยังสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลการทดสอบ POC ผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ E-sim และมี GPS ในตัว โดยข้อมูลที่ถูกเก็บมา จะถูกส่งต่อไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์เพื่อทำการวิเคราะห์และพัฒนา EV ในอนาคตต่อไป
“ยามาฮ่า E01” ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไลออน ขนาดใหญ่ 4.9 กิโลวัตต์ชั่วโมงให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 8.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ 5,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 30.2 นิวตันเมตรที่ 1,950 รอบ สามารถวิ่งได้สูงสุด 130 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WMTC คลาส 1 ในยุโรป และสามารถเลือกชาร์จแบตเตอรี่ได้ 3 รูปแบบ เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน และรองรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ได้แก่
- เครื่องชาร์จแบบเร็ว – เหมาะสำหรับการติดตั้งโดยผู้ให้บริการแบ่งเช่ารถ หรือ ตัวแทนจำหน่าย สามารถชาร์จ จาก 0% ถึง 90% ได้ภายใน 1 ชั่วโมง
- เครื่องชาร์จแบบปกติ – เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในบ้าน สามารถชาร์จ จาก 0% ถึง 100% ได้ภายใน 5 ชั่วโมง ที่แรงดันไฟฟ้า 200V (เข้ากันได้กับเต้ารับ 200–240V ในประเทศต่างๆ)
- เครื่องชาร์จแบบพกพา – พกพาสะดวกด้วยขนาดที่พอดีกับช่องเก็บของใต้เบาะนั่ง สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 100% ได้ภายใน 14 ชั่วโมง ที่แรงดันไฟฟ้า 100V (200–240V ในประเทศต่างๆ)
อีกทั้งระบบมอเตอร์ไฟฟ้าของ “ยามาฮ่า E01” ที่พัฒนาและผลิตขึ้นภายใต้ลิขสิทธิ์เฉพาะของ ยามาฮ่า เพื่อสมรรถนะและคุณภาพสูง รวมถึงเฟรมที่ได้รับการออกแบบใหม่โดยเฉพาะ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีจากการพัฒนารถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตมาใช้งาน
“ยามาฮ่า E01” มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 ระดับ เพื่อความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมขณะใช้งาน และไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกัน ได้แก่
- PWR (โหมดเพาเวอร์): กำลังสูงสุด 8.1kW ที่ 5,000rpm แรงบิดสูงสุด 30.2Nm ที่ 1,950 rpm สามารถทำความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับการขับขี่ที่ดึงกำลังสูงสุดของมอเตอร์ออกมา เหมาะสำหรับการขี่ขึ้นเนิน และการเร่งแซง ฯลฯ
- STD (โหมดมาตรฐาน): กำลังสูงสุด 8.1kW ที่ 5,000rpm แรงบิดสูงสุด 24.5Nm ที่ 1,500 rpm สามารถทำความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปที่ใช้บ่อยที่สุดในช่วงความเร็ว 30-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ECO (โหมดอีโค): กำลังสูงสุด 5.4kW ที่ 4,500rpm แรงบิดสูงสุด 21.4Nm ที่ 1,500rpm ทำให้ประหยัดพลังงานและสามารถเดินทางได้ระยะไกลขึ้น เพื่อจำกัดการใช้พลังงานแบตเตอรี่และจำกัดความเร็วสูงสุด อยู่ที่ประมาณ 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวถึง “ยามาฮ่า E01” ว่า “ยามาฮ่ามอเตอร์ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสภาวะโลกร้อน และการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างสิ้นเปลืองนั้นทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจก ที่จะส่งผลกระทบต่างๆ ขึ้นในโลก โดยยามาฮ่ามีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่ปี 2020 ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากผลิตภัณฑ์ยามาฮ่าลง 16% และภายในปี 2050 เราตั้งเป้าที่จะลดลงให้ได้ถึง 90% ซึ่งแผนการที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผลิตภัณฑ์ ยามาฮ่าในระยะยาวนั้น ยามาฮ่าจะส่งเสริมการใช้ยานพาหนะขนาดเล็ก รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้มาใช้พลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ EV ทั้งผลิตภัณฑ์ทางเรือ และจักรยานยนต์จึงได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน จากจุดเริ่มต้นด้วยจักรยานแม่บ้านติดระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ก่อนที่จะพัฒนามาเป็น รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าครั้งแรกในปี 1991
สำหรับผู้ที่สนใจทดลองขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “ยามาฮ่า E01” โดยภายในเดือนสิงหาคม ทางยามาฮ่าจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อทดลองขับขี่ได้ที่ยามาฮ่า ไรเดอร์ คลับ (Yamaha Riders’ Club) สาขาเกษตรนวมินทร์ โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.yamaha-motor.co.th หรือ สอบถามได้ที่ Yamaha Call Center เบอร์ 02-2639999