ออกทริปดูงูกับฮุนได ‘สตาร์เกเซอร์’
May 20, 2023

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงกับการออกทริปทดลองขับฮุนได ‘สตาร์เกเซอร์’ รถยนต์เอนกประสงค์ 7 ที่นั่งที่มีรูปร่างหน้าตาสุดล้ำไม่ต่างกับรุ่นพี่อย่าง ฮุนได สตาเรีย รถตู้สุดเท่ สำหรับ ฮุนได สตาร์เกเซอร์ ได้เผยโฉมครั้งแรกในเมืองไทยในงานมอเตอร์โชว์ 2023 การมาในวันนั้นสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก

และครั้งนี้เราได้รับเทียบเชิญจาก ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ให้ไปร่วมทดลองขับฮุนได ‘สตาร์เกเซอร์’ รถยนต์มินิเอ็มพีวีรุ่นล่าสุดของฮุนได ทริป “สตาร์เกเซอร์ ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด” บนเส้นทางที่สวยงามทางภาคใต้เริ่มต้นจากสนามบินภูเก็ตมุ่งหน้าพังงาระยะทางไปกลับกว่า 200 กิโลเมตร ด้วยระยะทางขนาดนี้เราน่าจะประเมินได้ว่ามินิเอ็มพีวีคันนี้จะขับขี่เป็นยังไงที่นั่งในแต่ละที่จะให้ความรู้สึกแบบไหนไปลองดูกัน

วันแรกของทริปนี้ทีมงาน ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ได้นัดเจอทุกคนเพื่อทำความรู้จักกับ ฮุนได ‘สตาร์เกเซอร์’ เราขอข้ามจุดนี้ไปเพราะเราอยากขับแล้ว เมื่อพร้อมแล้วก็บินจากสุวรรณภูมิใช้เวลาไม่นานเราก็มายืนอยู่หน้าสนามบินภูเก็ต ทริปนี้เราไม่ได้แค่ได้ลองขับแต่เราจะได้ลองนั่งในทุกๆ ตำแหน่งของรถด้วยเพราะว่าในหนึ่งคันเราจะไปกันสามคน

มาพูดถึงรูปร่างหน้าของสตาร์เกเซอร์กันก่อน รถยนต์คันนี้เรียกได้ว่าถ้ามองภาพรวมแล้วเหมือนเอารุ่นพี่ ฮุนได สตาเรีย มาย่อส่วนเพราะมีกลิ่นอายความล้ำสมัยไม่แพ้กัน การออกแบบด้วยเส้นโค้งที่เฉียบคม (One Curve Design) พร้อมแถบไฟส่องสว่างด้านหน้าเวลากลางวัน DRL แบบ LED ที่มีเอกลักษณ์มากเป็นเดียวพาดยาวมองไกลๆ เหมือนหน้าโรโบคอป พอเดินมาด้านหลังจะพบกับไฟท้ายดีไซน์แบบ H-shape แบบ LED สวยงามแปลกตาไม่รู้ตอนกลางคืนจะสวยขนาดไหนไว้ต้องไปดูกัน

พอเปิดมาภายในต้องบอกว่าว๊าวมากๆ เพราะมันดูกว้างขวางและแปลกตามากๆ มองไปมุมไหนก็สบายตาอารมณ์เหมือนห้องนั่งเล่นพูดไปจะหาว่าเวอร์ของแบบนี้ต้องไปลองนั่งกันดูก่อนออกเดินทางเราก็ได้ลองพับเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระคันนึงนั่งสามคนของก็ไม่ใช่น้อยแต่ยัดของทั้งหมดไปได้แบบสบายๆ เพราะเบาะแถวสองและสามสามารถพับพนักพิงลงได้แบบแยกชิ้นทำให้เราออกแบบพื้นที่เก็บสัมภาระได้หลากหลาย

เมื่อทุกคนพร้อมกองทัพต้องเดินด้วยท้องก็ไปกันเลยกับจุดหมายแรกร้านอาหาร ‘บ้านอาจ้อ’ ร้านอาหารที่มีสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นสไตล์ชิโน-โคโลเนียล ที่มีอายุกมากกว่า 87 ปี ‘บ้านอาจ้อ’ นอกจากจะเป็นร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำโดยมิชลินไกด์แล้วตัวอาคารยังเป็นที่จัดแสดงสิ่งของโบราญมากมายที่บอกเล่าเรื่องราวของภูเก็ตในยุคที่แร่ดีบุกยังรุ่งเรือง

แนะนำว่าเป็นอีกสถานที่ที่มาเยือนภูเก็ตแล้วต้องห้ามพลาด อาหารอร่อย ได้ความรู้ มีมุมให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ เยอะมาก ที่สำคัญที่ ‘บ้านอาจ้อ’ ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่หลายคนบอกว่ามาไหว้ทีไรเห็นผลทันตา…อันนี้ต้องมาลองดูกันเอง

ระยะทาง 20 กิโลเมตรจากสนามบินภูเก็ตมาถึง ‘บ้านอาจ้อ’ ผมได้ลองนั่งที่นั่งแถวสามก่อนเลยเพราะก่อนหน้านี้เคยลองนั่งมาหลายยี่ห้อละนั่งได้มั้งไม่ได้มั้ง แต่ที่นั่งตอนหลังของ ‘สตาร์เกเซอร์’ สำหรับผมที่มีความสูง 180 เซนติเมตรกับมุดเข้าไปนั่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังนั่งแบบชิลๆ ในระยะทาง 20 กิโลเมตร ต้องบอกก่อนว่าคันที่ผมนั่งเป็น ‘สตาร์เกเซอร์’ รุ่น Smart 6 ที่มีที่นั่งทั้งหมด 6 ที่นั่งและจุดเด่นของรุ่นนี้คือที่นั่งแถวสองแบ่งเป็นสองที่นั่งแยกกันแบบ Captain Seat ทำให้การเข้าไปนั่งแถวหลังสุดทำได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องพับเบาะแต่อย่างใดที่นั่งแถวหลังสุดก็มีที่วางของวางแก้วให้ใช้อีกด้วย

จุดต่อไปที่เราจะไปกันก็คงหนีไม่พ้นจุดวิวอ่าวพังงาแบบ 180 องศา ‘เสม็ดนางชี’ เป็นนักท่องเที่ยวมันต้องโดน พึ่งกินมาอิ่มๆ เราจะขับรถทำไม ในจุดที่จะไปต่อเราเลยจองที่นั่งแถวสองไว้ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของฮุนได ‘สตาร์เกเซอร์’ เพราะเป็นที่นั่งแบบแยกสไตล์ Captain Seat พอได้ลองนั่งแล้วบอกได้เลยว่าฟินสุดๆ ที่นั่งถูกออกแบบมาให้นั่งสบายขนาดของเบาะและพนักพิงมีขนาดใหญ่และนุ่มพนักพิงปรับเอนได้หลายองศา เรียกได้ว่าเป็นที่นั่งที่ดีที่สุดของรถคันนี้เลยก็ว่าได้

ชมวิวกันจนหูตาแฉะก็ได้เวลาเดินทางไปทิ้งพักคืนนี้เราจะไปนอนกันที่โรงแรม เลอ เมอริเดียน เขาหลัก รีสอร์ทแอนด์สปา ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร เป็นระยะทางที่กำลังดีเหมาะกับการทดลองขับฮุนได ‘สตาร์เกเซอร์’ หลังจากกินแรงเพื่อนร่วมทริปไปพอสมควร

ฮุนได ‘สตาร์เกเซอร์’ เป็นรถเอนกประสงค์ 7 ที่นั่งซึ่งมีรุ่นแยกแบบ 6 ที่นั่งมาให้เลือกกันด้วย ทุกรุ่นย่อยจะมากับครื่องยนต์เบนซิน เทคโนโลยีสมาร์ทสตรีม เอ็มพีไอ ขนาด 1.5 ลิตร (Smartstream 1.5 MPI) ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติแบบไอวีที (IVT) ความรู้สึกแรกเลยคือพวงมาลัยที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ แต่สำหรับผมผมชอบเพราะมันตึงมือดีทำให้มีความมั่นใจในการขับขี่

ถ้าถามว่ารถไซส์นี้กับกำลัง 115 ม้ามันเพียงพอมั้ยส่วนตัวคิดว่ากำลังพอเหมาะเพราะเป็นรถแนวครอบครัวถ้าแรงกว่านี้ผู้โดยสารอาจจะไม่สนุกด้วยแน่ๆ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วถ้าอยากได้ความแรงเร้าใจตอบโจทย์พ่อบ้านสายซิ่ง ‘สตาร์เกเซอร์’ ก็มีโหมดการขับขี่มาให้เลือกใช้ถึง 4 โหมดซึ่งทั้ง 4 โหมดให้อารมณ์ในการขับขี่ที่แตกต่างกันพอสมควร

  • อีโค (Eco) ในโหมดนี้ให้การขับขี่แบบสบายๆ ไม่รีบเร่งเน้นประหยัดเหมาะกับการใช้งานในเมืองที่การจารจรข้อนข้างติดขัด
  • นอร์มอล (Normal) ในโหมดนี้แนะนำให้ใช้เป็นโหมดแรกในการขับขี่เพื่อเรียนรู้ว่ารถเรามีสมรรถนะแบบไหนจะได้เทียบความแตกต่างกับโหมดอื่นๆ ได้
  • สปอร์ต (Sport) โหมดนี้ถูกใจสายซิ่งแน่นอนเพราะใจความจี๊ดจ๊าดในการขับขี่การลากรอบเครื่องแถมหน้าปัดยังเป็นสีแดงดุดันสุดๆ แต่สิ่งที่ต้องแรกคืออัตราสิ้นเปลืองที่จะดุดเดือนมากขึ้นเช่นกัน
  • สมาร์ท (Smart) ในโหมดนี้เมื่อได้ลองขับผมขอแนะนำเลยเพราะรถจะปรับเปลี่ยนการตอบสนองแบบอัตโนมัติ ตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่ทำให้เราใช้ ‘สตาร์เกเซอร์’ ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพสูงสุด

เส้นทางทางใต้เป็นเส้นทางที่ขับสนุกสวยงามมีทั้งทางโค้งทางชัน ทำให้ได้ลองขับฮุนได ‘สตาร์เกเซอร์’ อย่างเต็มที่และยังได้ทดลองระบบช่วยการขับขี่อย่างฮุนได สมาร์ทเซนส์ ที่ประกอบด้วย (LFA) ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (LKA) ระบบควบคุมรถในช่องจารจรถ้าเราออกนอกเลนรถจะช่วยดึงกลับเข้ามาในเลน ส่วนในตอนกลางคืนก็ยังมีระบบช่วยเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติอีกด้วย ก่อนเข้าที่พักก็ขอแวะไปชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลพังงาซะหน่อย

เช้าวันรุ่งขึ้นก่อนกลับกรุงเทพฯ ไหนๆ เราก็อยู่พังงาแล้วอีกที่ที่ใครๆ ต่างแนะนำให้ไปสักครั้งคือไปล่องเรือดูงูที่ Little Amazon ป่าไทรโบราณ คลองสังเน่ห์ ใครไม่ชอบงูก็ต้องไปเพราะผมไปมาแล้วมันอเมซิ่งเหมือนได้ท่องป่าอเมซอน สวยงามแปลกตา แถมร้อนอีกด้วย แต่ที่แน่ๆ พายเรือไม่เป็นก้ไปได้เพราะเค้ามีเรือพร้อมคนพายค่อยให้บริการ ส่วนคนพายก็เป็นชาวบ้านแถวนั้นที่มีความชำนาญพื้นที่มากๆ สามารถพาเราไปจุดท้ายรูปสวยๆ และแนะมุมกล้องให้เราได้ด้วย ยังไงถ้าไปพังงาก็อย่าพลาดกันนะทุกคน

ฮุนได สตาร์เกเซอร์ พร้อมจำหน่ายแล้วด้วยราคาเริ่มต้น 769,000 บาท หรือใครชอบจัดหนักจัดเต็มก็ไปเล่นรุ่น Smart 6 ที่นั่งราคา 889,000 บาท และในรุ่น Smart 6 เฉพาะตัวถังสีขาวและสีเงินสามารถเท่ขึ้นได้อีกด้วยหลังคาสีดำเพีงหยอดเงินเพิ่มไปอีก 20,000 บาทเท่านั้น อย่ามัวรีรอไปทดลองขับกันได้ที่ศูนย์ฮุนไดใกล้บ้านท่าน…ไปเลย!

ขอขอบคุณ ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ที่ชวนเรามาผจญภัยในครั้งนี้

yodel

yodel
โยเดลผู้มาจากดาวอังคาร เราคือผู้ชื่นชอบเรื่องรถยนต์ ท่องเที่ยว กินดื่ม แต่ก็ยังรักการปั่นจักรยานเพราะสามารถพาไปท่องเที่ยว กินดื่มได้เหมือนกัน...วันว่างยังชอบดูหนัง ฟังเพลง และที่ขาดไม่ได้คือวาดภาพ และประกอบแบบจำลอง... IG: instagram.com/yodel FB: facebook.com/yomodels

Subscribe me