‘ขับรถได้กับขับรถเป็น’ คุณว่าเหมือนกันมั้ย? ถ้าคิดว่าคุณขับรถเป็นเราอยากให้มาลอง Skill Driving Experience การอบรมการขับรถที่เน้นปฎิบัติจริงในสนามทดสอบแบบปิดโดยผู้ฝึกสอนมากประสบการณ์อดีตนักแข่งรถแถวหน้าของเมืองไทยที่มีใบรับรอง instructor จากต่างประเทศ แค่นี้ก็สามารถการันตีความมันส์บวกความรู้และประสบการณ์การเรียนขับรถที่ยากจะลืม…
โครงการ Skill Driving Experience ขับเป็น ขับปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของบริษัทสื่อสากล ที่มุ่งเน้นให้ทุกคนที่มาเรียนได้มีประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลายซึ่งอาจจะเกิดขึ้นบนท้องถนนเมื่อไรก็ได้ การที่ได้มาลงเรียนภาคสนามกับโครงการแบบนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งกับเราเองและเพื่อนร่วมทาง
กิจกรรมเริ่มต้นตั้งแต่เช้าหลังจากตรวจวัดอุญหภูมิร่างกาย และล้างมือก่อนลงทะเบียนตามมาตรการ “New Normal” ก็จะเป็นการแนะนำตั้งแต่ท่านั่งในการขับรถ การจับพวงมาลัยที่ตำแหน่ง 9 และ 3 นาฬิกาเพื่อการควบคุมรถที่ง่ายขึ้น และที่สำคัญยังมีการอธิบายถึงสาเหตุอุบัติเหตุทั้งแหกโค้ง และรถหมุนว่าเกิดจากอะไร แล้วจะต้องแก้ยังไง เราใช้เวลาในห้องเรียนไม่นานก็ถึงเวลาลงสนามกันแล้ว…
การเรียนจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม แยกออกไปตามสถานีและตามสไตล์ของรถ คือจะมีรถทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า, ขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ ก่อนจะออกไปลุยก็จะมีการแนะนำท่านั่งจากผู้ฝึกสอนที่ตัวรถ ท่านั่งนั้นสำคัญมาก การนั่งต้องไม่สูงหรือต่ำเกินไปสังเกตุได้จากการกำมือวางไว้บนหัวแล้วมืออีกด้านจะชนเพดานพอดี การเหยียบเบรคขาจะไม่เหยียดตึงจนเกินไปเพราะนอกจากจะทำให้มีแรงเหยียบเบรคไม่พอแล้ว เมื่อเกิดการชนขาที่เหยียดตรงจะเกิดแรงกระแทกจนสามารถหักได้ตั้งแต่ข้อเท้า หัวเข่า สะโพก อันตรายมากกกกกก!!!
รถที่ใช้ในการเรียนบอกเลยว่ากรี๊ดดดดดดมาก เพราะรถที่ใช้เรียนไม่ใช่รถไก่กาอาราเล่ธรรมดามีทั้ง Subaru Forester ที่เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ BMW 3 series รุ่น 330e ที่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง และ Mercedes-Benz อีก 2 รุ่นคือ GLA 250 compact SUV และ A200 ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า เอาเบนซ์ บีเอ็มมาให้เรียนกันเลยป๋ามักมาก
ในบทเรียนแรกเราเริ่มจากสถานี ’แหกโค้ง’(Under Steering) สาเหตุของอาการไม่มีอะไรซับซ้อนแค่เราเข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากเกินไป การแก้ก็คือการลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง อาจจะแค่ยกเท้าออกจากคันเร่ง หรือแตะเบรคเล็กน้อยมือคุมพวงมาลัยตามองไปในทิศทางที่จะไปและที่สำคัญสติ!
รถที่ใช้ในสถานีนี้จะเป็นรถ Subaru Forester รถ SUV ขนาดใหญ่ที่มากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ บอกได้เลยว่าหลังจากได้ทำการฝึกอยู่ 4-5 รอบทำให้เรามั่นใจในการขับรถมากยิ่งขึ้นเพราะการสอนเริ่มจากเข้าโค้งแบบเบาๆ ด้วยความเร็ว 40 กม/ชม ไล่ไปจนถึงความเร็ว 60 กม/ชม ตอนเข้าโค้งเสียงยางร้องลั่นเอี๊ยดดดด…บอกได้เลยว่าเสียวเอาเรื่องอยู่เหมือนกันแต่ก็พอเข้าใจแล้วว่าการแหกโค้งมันเป็นยังไงก่อนออกจากสถานีก็มีให้ทดลองกระทืบเบรกจน ABS ทำงานดู เป็นการจำลองเมื่อมีอะไรวิ่งตัดหน้าอันนี้มั่นใจว่าหลายๆ คนยังไม่เคยลอง…บอกเลยว่าต้องลอง!
สถานีต่อไปที่เราจะมาเรียนกันคือ ’รถหมุน’(Over Steering) เคยกันมั้ยครับรถหมุน? ผมเคยเห็นแต่ในคลิปที่เค้าแชร์ๆ กันมา แต่วันนี้เราจะมาหมุนกันจริงๆ ดูซิว่าอาการมันเป็นยังไงแล้วต้องแก้กันยังไง สถานีนี้ใช้รถ BMW 3 series รุ่น 330e รถยนต์สมรรถนะสูงที่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง งานนี้ไม่หมุนก็ไม่รู้จะว่ายังไงเพราะพื้นที่เตรียมไว้สำหรับการฝึกเจิ่งนองไปด้วยน้ำผสมผงซักฟอกอะไรจะขนาดนั้น ครูฝึกอธิบายว่าอาการรถหมุนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกระดับความเร็ว เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะวิ่งไปโดนคราบน้ำมัน ฝุ่นทราย หรือแอ่งน้ำเมื่อไร ว่าแล้วก็เริ่มกันเลย
เริ่มจากขับเข้าไปในวงกลมที่มีกรวยตังไว้เป็นแนววิ่งด้วยความเร็ว 20 กม/ชม เมื่อได้ยินเสียงครูฝึกพูดว่า “กด!” ผ่านทางวิทยุในรถ เราก็แค่กดคันเร่งจนมิด เพียงแค่นั้นเราก็พร้อมจะหมุนติ่วๆๆๆๆ การแก้อาการรถหมุนนั้นไม่ยากพอรถเริ่มมีอาการหมุนให้ตั้งสติ! และสังเกตุจากก้นเราจะเริ่มเบาๆ ลอยๆ จากเบาะที่นั่ง ให้เรายกเท้าออกจากคันเร่ง ตามองไปในทางที่จะไป แล้วรีบควงพวงมาลัยสวนทางกับหน้ารถที่กำลังจะหมุน ไป ง่ายๆ เท่านี้ถามว่าลองทำอยู่ 4-5 รอบแก้ได้มั้ยบอกเลย…ไม่ได้! ของแบบนี้ต้องฝึกบ่อยๆ จนชำนาญส่วนคนที่ชำนาญแล้วจะสามารถก้าวสู้วงการรถดริฟท์ได้…อย่างนี้ https://bit.ly/3dB3qEP
หลังจากพักเหนื่อยก็มาสู่สถานีสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับการ ‘เปลี่ยนเลนฉุกเฉิน’(Lane Change & Double Lane Change) เป็นสถานีที่บีบหัวใจมากระทึกสุดสำหรับผม นอกจากจะได้ขับ Mercedes-Benz ถึง 2 รุ่นคือ GLA 250 compact SUV และ A200 ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้ายังต้องมาเจอกรวยเยอะแยะข้างหน้า การเรียนสถานีนี้หลักการไม่มีอะไรเพียงแค่มองในช่องทางที่เราจะไปเท่านั้น….ง่ายเนอะ
เริ่มต้นจากการใช้ความเร็วที่ 40 กม/ชม ไล่ไปจนถึงความเร็ว 60 กม/ชม เราแค่วิ่งตรงๆ ไปตามช่องทางที่กำหนดพอเจอกรวยขวางตรงหน้าก็ให้หักหลบแล้วเหยียบเบรกจนรถหยุดสนิทแค่เนี้ยแหละ ใครว่าไม่เห็นมีไรอยากให้มาลองกันเองจริงจริ๊งงงง ฝึกหักหลบทั้งซ้ายขวาจนคล่องแล้วคราวนี้ก็มาลองหักหลบ 2 ทีดูมั้ง เมื่อวิ่งตรงเข้าไปแล้วให้หักรถหลบซ้าย 1 ครั้งแล้วตรงมาหักหลบขวาอีก 1ครั้งแล้วเบรคให้รถหยุดนิ่ง…บอกได้เลยครับกรวยหายเป็นแถบ เรื่องพวกนี้มันต้องฝึกฝนบ่อยๆ อย่างน้อยปีละครั้งบอกเลยว่าคุ้ม!
การอบรมวันนี้นอกจากเราจะได้ประสบการณ์การขับรถที่หลากหลาย เรายังได้ขับรถสมรรถณะสูงระดับแถวหน้าของโลกอีกด้วยโอกาสแบบนี้ไม่ได้หาได้บ่อยๆ ต้องบอกเลยว่าสปอนเซอร์โครงการใจป๋ามากๆ ที่เอารถแบบนี้มาให้เราเรียนรู้กันแบบปู้ยี่ปู้ยำยางนี้ลั่นเอี๊ยดอ๊าด จะหาเรียนอย่านี้ได้ที่ไหนถ้าไม่ใช่ที่นี้ Skill Driving Experience ขับเป็น ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล
แม้การฝึกจะไม่ได้เห็นผลว่าเราทำได้ 100% แต่เชื่อว่าเมื่อเกิดสถานการณ์จริงบนท้องถนนการที่เราได้ฝึกในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับเราแน่ๆ อย่างน้อยวันนี้เราก็ได้รับประสบการณ์ตรงกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไรก็ได้บนท้องถนนทั้งแหกโค้ง รถหหมุน การกระทืบเบรก การเปลี่ยนเลนฉุกเฉิน มาเรียนเหอะไม่ผิดหวัง!
**********************
สามารถติดตามตารางอบรมในปีต่อไปได้ที่ Facebook: Skill Driving Experience ขับเป็น ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล หรือ www.skilldriving.imc.co.th