Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศ!
Feb 1, 2021

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดเกมรุกตั้งแต่ต้นปี 2563 ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ SUV 7 ที่นั่งระดับ VIP อย่าง Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศ ที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสาร ความสะดวกสบายเหนือจินตนาการ ดีไซน์ที่มีความสง่างาม และความหรูหราเหนือระดับเทียบเท่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ตระกูล S-Class พร้อมความแข็งแกร่งและระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด

Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium จัดเต็มกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2,925 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 286 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตรที่ 1,200-3,200 รอบ/นาที ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7 วินาที การขับขี่ราบรื่นด้วยระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ที่ให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้รวดเร็วและนุ่มนวล พร้อมประหยัดเชื้อเพลิงกว่า 6.5%

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “Full time” แบบ 4MATIC ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถและการทรงตัวบนถนนที่เปียกลื่น รวมถึงการขับขี่บนทางแบบ OFF-ROAD ให้การควบคุมการขับขี่ที่เฉียบคม มั่นใจ แถมยังนุ่มนวลตลอดการเดินทางในทุกสภาพถนนด้วยระบบช่วงล่างแบบ AIRMATIC และนี้เป็นครั้งแรกที่จะได้พบกับฟังก์ชันเตรียมรถเข้าสู่เครื่องล้างอัตโนมัติ โดยจะทำงานอย่างสอดคล้องร่วมกับระบบ AIRMATIC เพียงสั่งงานผ่านหน้าจอ media display

ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ที่สามารถปรับความเข้มของแสงและความยาวของลำแสงได้อิสระจากกัน โดยมีระบบตรวจจับวัตถุที่คำนวณความสว่างอัตโนมัติ และไฟท้ายแบบ LED พร้อมล้ออัลลอยด์น้ำหนักเบาดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ 21 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (Panoramic sliding sunroof) ที่เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าเพิ่มความสุนทรียะในการขับขี่

ภายในห้องโดยสารซึ่งรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ท่าน ได้รับการออกแบบให้มีความกว้างขวางและสะดวกสบายมาตรฐานเดียวกับ S-Class ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 60 มิลลิเมตร จึงมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างและโปร่งสบายขึ้น โดยเฉพาะที่นั่งแถว 2 ที่สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมบันทึกตำแหน่งที่นั่งได้ และยังสามารถปรับเลื่อนเบาะถอยหลังได้ถึง 10 เซนติเมตร เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับวางขา

พนักพิงสามารถปรับเอนได้มากกว่าเดิม ส่วนเบาะที่นั่งแถว 3 เป็นที่นั่งแบบ full-size ที่สามารถนั่งได้จริงรองรับคนที่มีความสูง 194 เซนติเมตรเลยทีเดียว พร้อมระบบ EASY-ENTRY ที่ออกแบบเป็นพิเศษให้เบาะและพนักพิงของที่นั่งแถว 2 สามารถพับขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้เข้าสู่ที่นั่งแถว 3 ได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญเบาะที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 สามารถพับได้อย่างอิสระ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายและเพิ่มพื้นที่ความจุสำหรับเก็บสัมภาระได้สูงสุดถึง 2,400 ลิตร ตอบสนองทุกความต้องการ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความกว้างขวางตามแบบฉบับรถยนต์อเนกประสงค์

ในห้องโดยสารยังเพิ่มความชิลด้วยระบบไฟส่องสว่างแบบ Ambient Light ที่มีให้เลือกถึง 64 สี โดย Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ยังมาพร้อมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากมาย โดยเฉพาะ Mercedes me connect ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยทำงานร่วมกับระบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่ช่วยมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากขึ้นสำหรับผู้ขับขี่ พร้อมหน้าจอสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 เพื่อความบันเทิงแบบ MBUX Rear Seat Entertainment จำนวน 2 จอ ขนาด 11.6 นิ้ว พร้อมระบบควบคุมหน้าจอแบบสัมผัส เพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยหูฟังแบบ wireless head sets คุณภาพสูง

Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ให้ความสะดวกในการขับขี่ด้วยระบบแสดงภาพผ่านกล้อง 360° ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยไม่ว่าจะเป็นภาพมุมสูง (Bird’s-eye perspective) และภาพมุมด้านข้างล้อหน้า ช่วยให้คุณถอยจอดรถได้อย่างแม่นยำ พร้อมให้คุณเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay™ หรือ Android Auto™ และเลือกปรับแต่งรูปแบบของการแสดงผลได้หลากหลาย อาทิ “Classic”, “Sport”, “Progressive” และ “Subtle” รวมไปถึงแผงควบคุมระบบสัมผัสบริเวณพวงมาลัยดีไซน์สปอร์ต ที่ให้คุณควบคุมทุกอย่างได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส และยังมาพร้อมกับระบบ Vehicle Monitoring ที่ช่วยให้คุณมองเห็นสถานะของรถยนต์ผ่านแอปลิเคชัน

Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ยังมาพร้อมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากมาย อาทิ ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC) โดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่กระจังหน้าคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะนั้น ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist) ที่ทำงานตั้งแต่ความเร็วของรถที่ 12 กม./ชม. ระบบ Active Lane Keeping Assist ที่ช่วยดึงรถกลับเข้าช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติหากตรวจพบความเสี่ยงในการชน ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่เป็นไฮไลต์ของรถยนต์รุ่นนี้คือ บริการ Mercedes me connect ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยทำงานร่วมกับระบบมัลติมีเดียอัจฉริยะที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ล่าสุดอย่างระบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่หลากหลายขึ้น และความสะดวกสบายที่มากขึ้นสำหรับผู้ขับขี่ บริการ Mercedes me connect มาพร้อมฟังก์ชันอันโดดเด่นมากมายที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเพิ่มบริการ และฟังก์ชันต่าง ๆ ตามต้องการได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน อาทิ

  • Mercedes-Benz emergency call system ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนและถุงลมนิรภัยทำงาน เซ็นเซอร์ของระบบนี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ และส่งตำแหน่งของรถยนต์ให้กับศูนย์ช่วยเหลือทันที
  • Vehicle Monitoring เจ้าของรถยนต์สามารถเช็คตำแหน่งล่าสุด หรือเส้นทางการขับขี่ของรถยนต์ได้ผ่านแอปพลิเคชันของ Mercedes me connect ได้
  • Vehicle Set-up ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบสภาพรถยนต์ได้จากระยะไกล โดยเซ็นเซอร์ที่อยู่ในรถจะตรวจสอบสภาพของรถยนต์ในขณะนั้น และส่งเป็นข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันให้ทั้งผู้ขับขี่ และศูนย์ซ่อมบำรุงสามารถเปิดดูรายละเอียดข้อมูลสถานะต่าง ๆ ได้
  • Maintenance Management ระบบนี้จะช่วยเตือนเมื่อถึงเวลานำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ โดยจะตั้งวัน และเวลาเข้ารับบริการในครั้งต่อไปให้อัตโนมัติ
  • Online Booking ฟังก์ชั่นสำหรับการนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการต่างๆ จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วด้วยแอปพลิเคชัน Mercedes Me Service

สำหรับระบบ MBUX นั้น เป็นระบบมัลติมีเดียใหม่ล่าสุดที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับความสะดวกสบายให้แก่ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รองรับการสั่งการผ่านจุดสำคัญ 2 จุดคือ หน้าจอ Widescreen ระบบสัมผัส (หน้าจอส่วนอินโฟเทนเมนต์) และ Touchpad ที่อยู่ตรงคอนโซลกลาง ระบบนี้มีจุดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติด้านการเรียนรู้ที่สามารถจดจำความต้องการของผู้เป็นเจ้าของผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้ MBUX เป็นระบบมัลติมีเดียที่สามารถปรับแต่งหรือปรับเปลี่ยนตามลักษณะ การใช้งานจริงของผู้เป็นเจ้าของรถได้ ซึ่งเป็นการสร้างความผูกพันระหว่างผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และรถยนต์ได้เป็นอย่างดี โดยระบบนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ

  • Navigation ระบบนำทางแบบใหม่ที่มาพร้อมกับ GPS ที่แม่นยำยิ่งขึ้น และแผนที่ที่แสดงผลแบบสามมิติ (3D) ด้วยกราฟิกที่มีความละเอียดสูง ในการนำทางโดยผู้ใช้สามารถหาจุดหมายที่ต้องการได้ด้วยการสัมผัสหน้าจอ นอกจากนั้นยังสามารถรายงานสภาพถนนและสถานะของร้านค้าต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย
  • Personal profiles ที่จะจดจำข้อมูลของผู้ขับขี่แต่ละคนไว้ ทั้งลักษณะของการปรับเบาะ ที่นั่ง สีไฟในห้องโดยสารที่ชอบ สถานที่ที่ไปเป็นประจำ ฯลฯ โดยระบบนี้สามารถจดจำข้อมูลของผู้ขับขี่ได้ถึง 22 โปรไฟล์
  • Linguatronic ระบบสั่งการด้วยเสียงที่รองรับได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน และภาษาฝรั่งเศสของทุกสำเนียงทั่วโลก (natural speech recognition) ระบบนี้สามารถรับรู้และเข้าใจเกือบทุกคำที่ปรากฏอยู่ในระบบอินโฟเทนเม้นท์ของรถยนต์ โดยผู้ขับขี่สามารถเปิดระบบได้เพียงพูดคำว่า “Hey, Mercedes”

Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 6,499,000 บาท

yodel

yodel
โยเดลผู้มาจากดาวอังคาร เราคือผู้ชื่นชอบเรื่องรถยนต์ ท่องเที่ยว กินดื่ม แต่ก็ยังรักการปั่นจักรยานเพราะสามารถพาไปท่องเที่ยว กินดื่มได้เหมือนกัน...วันว่างยังชอบดูหนัง ฟังเพลง และที่ขาดไม่ได้คือวาดภาพ และประกอบแบบจำลอง... IG: instagram.com/yodel FB: facebook.com/yomodels

Subscribe me