ฮุนได มอเตอร์ เปิดตัว RN24 รถต้นแบบ “Rolling Lab” รุ่นใหม่ล่าสุด จากแผนกรถยนต์สมรรถนะสูง “N” ในงาน ‘N Day 2024’ งานนี้ถือเป็นอีเวนต์ประจำปีที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของ Hyundai N พร้อมแสดงศักยภาพ ด้านเทคโนโลยี สมรรถนะสูงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในนอกจากนี้ยังนำเสนอวิสัยทัศน์สู่อนาคตโดยยึดหลักปรัชญาสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ Corner Rascal (ความเหนือชั้นในการควบคุมทางโค้ง), Racetrack Capability (สมรรถนะระดับสนามแข่ง) และ Everyday Sportscar (รถสปอร์ตที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน) สะท้อนเจตนารมณ์ของแบรนด์ในการส่งมอบ ประสบการณ์การขับขี่ ที่สนุกเร้าใจ ด้วยศักยภาพพิเศษที่มีได้เฉพาะในยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น
RN24 คือรถต้นแบบ (Rolling Lab) เจเนอเรชันใหม่จาก Hyundai N ที่พัฒนาต่อยอดจากรถต้นแบบที่ใช้ทดสอบเทคโนโลยีจากสนามแข่งเพื่อปูทางสู่รถยนต์ N รุ่นจำหน่ายจริง โดยเริ่มต้นจากรถซีรีส์ RM (Racing Midship) ในปี 2012 จนมาถึงรถไฟฟ้าอย่าง RN22e และ N Vision 74 ซึ่ง Rolling Lab ทุกรุ่นคือสนามทดสอบเทคโนโลยีสมรรถนะสูง RN24 ยังคงสานต่อเจตนารมณ์นี้ด้วยการผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ต พร้อมวางรากฐานอนาคตของ ยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ N
RN24 กำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการนำขุมพลังไฟฟ้าที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดมาไว้ในตัวถังที่เล็กที่สุดทีมวิศวกรจึงนำระบบมอเตอร์คู่ขนาด 650 แรงม้า จาก IONIQ 5 N มาติดตั้งในแชสซีรถไฟฟ้าที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง World Rally Championship (WRC) ผลลัพธ์คือรถไฟฟ้าที่ทั้งกะทัดรัด เบา และคล่องตัวสูง ตอบโจทย์สายซิ่งที่หลงใหลในแบรนด์ N
RN24 ใช้ระบบขับเคลื่อน PE จาก IONIQ 5 N โดยมีการออกแบบชุดแบตเตอรี่ใหม่ที่ยังคงความจุไว้ที่ 84 กิโลวัตต์-ชั่วโมง แต่สามารถลดความยาวฐานล้อลง 340 มม. ทำให้มีขนาดเท่ากับรถในกลุ่ม B-segment เทียบเท่ารถแข่ง i20 N Rally1 Hybrid ที่แข่งขันในศึก World Rally Championship (WRC) แชสซีดีไซน์ใหม่สไตล์ WRC ติดตั้งโช้คอัพระดับรถแข่ง และคานรองรับน้ำหนักความแข็งแรงสูง Rolling Lab คันนี้ติดตั้งระบบควบคุมการขับเคลื่อน (Powertrain Drive Control Logic) แบบ WRC ที่ช่วยให้คนขับปรับกำลัง มอเตอร์ไฟฟ้า (PE Power) ความไวในการเร่ง (Acceleration Sensitivity) ความไวของระบบเบรกรีเจนเนอเรทีฟ (Regenerative Brake Sensitivity) และการกระจายกำลังขับเคลื่อน (PE Power Balance) ผ่านปุ่มบนพวงมาลัย เหมือนกับที่ใช้ในรถแข่ง WRC ของฮุนได นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ รวมถึงมอเตอร์ที่ต่อยอดจาก IONIQ 5 N และติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวที่ตอบสนองฉับไวระดับรถแรลลี่
RN24 ยังมาพร้อมระบบเสียงภายนอกกำลังสูง เพิ่มลำโพงด้านข้างอีก 2 ตัว นอกเหนือจากระบบ N Active Sound+ ของ IONIQ 5 N และด้วยดีไซน์บังโคลนหลังของ RN24 ที่ทำหน้าที่เป็นกล่องเสียง มอบประสบการณ์เสียงที่ทรงพลัง สมศักดิ์ศรี ยานยนต์สมรรถนะสูง ไฮไลต์สำคัญในบรรดาเทคโนโลยีรถยนต์มอเตอร์สปอร์ตของ RN24 คือระบบควบคุมแรงบิดมอเตอร์ใน ‘Rally Mode’ ที่ทำงานคล้ายกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อในรถ i20 N Rally 1 ช่วยให้การกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้งสี่อย่างมีประสิทธิภาพ แต่แทนที่จะใช้ระบบกลไกแบบ i20 N Rally 1 โมเดล RN24 ใช้การควบคุมแรงบิดด้วยระบบไฟฟ้า ลดความซับซ้อนและต้นทุน จึงมีโอกาสนำมาใช้จริงในรถรุ่นต่อไปในอนาคต
เบรกมือไฟฟ้า (e-Handbrake) ก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ต่อยอดจากประสบการณ์ 10 ปีของ Hyundai N ในศึก WRC ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้มากเพราะไม่ต้องติดตั้งระบบเบรกแบบกลไก ทั้งระบบอุ่นเบรกด้านข้างและระบบไฮดรอลิกแบบเดิม โดยล่าสุดฮุนไดได้ทดสอบนวัตกรรมนี้ในการแข่งขัน WRC’s Central European Rally จุดเด่นทางดีไซน์ของ RN24 อยู่ที่โครงเหล็กแบบเอ็กโซสเกเลตันที่มีความแข็งแรงสูง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากรถ WRC ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่แล้ว ยังช่วยเสริมสมรรถนะของรถและการทรงตัวในการขับขี่ความเร็วสูง
ในส่วนของชิ้นส่วนแต่งจาก N Performance Parts มีการติดตั้งล้อแม็กขนาด 19 นิ้วจาก Elantra N แบบหล่อขึ้นรูปสีดำด้าน ที่นอกจากจะดูดีแล้วยังช่วยเพิ่มสมรรถนะด้วย นอกจากนี้ RN24 ยังติดตั้งสปอยเลอร์จากรถแข่ง Touring Car Racing (TCR) ของฮุนได มอเตอร์สปอร์ต ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ ทำให้รถคล่องตัวและทรงตัวดีขึ้น พร้อมใช้เหล็กเสริมแบบพิมพ์ 3 มิติ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและลดน้ำหนักไปพร้อมกัน