PHRAYA presents Meet the Craft Episode 1: Battle of the four elements by Native x Vesper เพราะ “การดื่มเป็นมากกว่าความบันเทิง” แต่ยังแฝงด้วยสุนทรียะแห่งเรื่องราวที่มีเสน่ห์ ที่คิดค้นอย่างสร้างสรรค์ และพิถีพิถันทุกขั้นตอน โดยกิจกรรมครั้งนี้ทาง ‘PHRAYA’ (พระยา) ได้เชิญ 2 มิกโซโลจิสต์จากบาร์ชั้นนำติดอันดับ Asia’s 50 Best Bars ประจำปี 2562 อย่าง ‘Leon Tan’ Head Bartender @ Native ค็อกเทลบาร์ชื่อดังจากสิงคโปร์ที่ล่าสุดทะยานขึ้นสู่อันดับที่ 4 และ ‘ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์’ Group Bar Manager @ Vesper ค็อกเทลบาร์ของไทยที่ติดอันดับ 26 ร่วมกิจกรรม Guest Shift สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเทรนด์การดื่มค็อกเทลในเมืองไทยและสิงคโปร์
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ Vesper ประเทศไทย ได้เปิดบาร์ต้อนรับ Native จากสิงคโปร์ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และยกระดับศาสตร์และศิลป์การดื่มรัมชั้นเลิศอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งตอบรับไลฟ์สไตล์ของ คนรุ่นใหม่ที่ต้องการเครื่องดื่มที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากกิจกรรม Rum Talk ในหัวข้อ “What’s trending right now?” ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทราบถึงเทรนด์การดื่มค็อกเทลทั้งในสิงคโปร์ และเมืองไทย ประเดิมด้วยแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ PHRAYA “วรเทพ จันทร์ดีราช” เล่าเรื่องราวความเป็นมาและกระบวนการผลิตอันพิถีพิถันของ PHRAYA Gold RumPHRAYA Gold Rum รัมสีทองอำพัน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Craft of Refinement ซึ่งได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพจากบาร์ชั้นนำทั่วโลก โดย PHRAYA ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์จากธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ธาตุดิน: การใช้วัตถุดิบจากอ้อยที่มีแหล่งกำเนิดในจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นับว่ามีดินที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง ธาตุน้ำ: การใช้น้ำที่บริสุทธิ์ในกระบวนการผลิตจากแม่น้ำท่าจีน ธาตุไฟ: การบ่มจากถังไม้โอ๊คที่ผ่านการลนไฟอ่อนๆ เพื่อกระตุ้นเนื้อไม้ มอบกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และ ธาตุลม: ที่ตั้งของโรงเก็บบ่มใกล้ทะเลสาบที่มีลมเย็นพัดผ่านตลอดปี โดยใช้เวลาบ่มยาวนานถึงระหว่าง 7-12 ปีอย่างละเมียดละไม
โดยความท้าทายของการบ่มรัมในประเทศไทยคือสภาพภูมิอากาศเขตร้อนที่จะทำให้รัมระเหยไปส่วนหนึ่ง แต่ข้อดีคือทำให้ได้มาซึ่งรสชาติที่เข้มข้น ลุ่มลึก มีความซับซ้อน เป็นเอกลักษณ์ ด้วยกลิ่นหอมนำจากวานิลลา และรสหวานที่แฝงด้วยเครื่องเทศและซิตรัส จนขึ้นแท่นรัมระดับชั้นนำของโลก การันตีด้วยรางวัลระดับโลก อาทิ รางวัลเหรียญเงินจาก International Wine & Spirit Competition 2018 และรางวัลที่นำความภาคภูมิใจสู่คนไทย คือ World Rum Awards 2017 พร้อมให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสรสชาติจาก Craft of Refinement กันแบบเต็มๆจากนั้น ‘ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์’ มิกโซโลจิสต์ดีกรีแชมป์จากเวทีระดับโลก Group Bar Manager ประจำ Vesper ซึ่งเป็นบาร์ที่โดดเด่นด้านการสร้างสรรค์เมนูค็อกเทลจากแรงบันดาลใจสุดล้ำสไตล์โมเดิร์นอาร์ต ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเทรนด์การดื่มในประเทศไทยในปัจจุบันนี้ว่า ค็อกเทลได้รับความนิยมแพร่หลายเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อราว 10 ปีก่อน ค็อกเทลจัดเป็นเครื่องดื่มที่เสิร์ฟเฉพาะในโรงแรม แต่ปัจจุบัน ค็อกเทลสามารถพบได้ตามร้านอาหารหรือบาร์ทั่วๆ ไป ที่เปิดเป็นร้านสแตนด์อโลนก็มีให้เห็นมากมาย สำหรับปีนี้ มีบาร์ถึง 7 แห่งในกรุงเทพฯ ติดอันดับในลิสต์ Asia’s 50 Best Bars นอกจากนี้ คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น จึงรู้แหล่งกินดื่มมากขึ้น ส่งผลให้ความนิยมของค็อกเทลสูงมากในปีนี้ และคาดว่าจะสูงขึ้นอีกในปีหน้า
สิ่งที่น่าจับตาอีกก็คือ ผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มมองหาประสบการณ์ชั้นเลิศและคุณภาพที่แท้จริงจากการดื่ม PHRAYA จึงนับได้ว่าเป็นรัมชั้นเลิศที่ตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะรสชาติของค็อกเทลที่ดีย่อมมาจากคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใช้ผสม สำหรับไอเดียในการรังสรรค์เมนูค็อกเทลนั้น จะต้องมีความสมดุลกันกับวัตถุดิบที่นำมาใช้ และที่สำคัญคือจะต้องช่วยส่งเสริมกัน กิจกรรม Meet the Craft ครั้งนี้จึงเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและศาสตร์การผสมเครื่องดื่มที่มีประโยชน์อย่างมาก ทั้งมิกโซโลจิสต์และผู้ดื่มต่างต้องมีทัศนคติเปิดรับในการแลกเปลี่ยน เพราะศาสตร์แห่งการผสมเครื่องดื่มก็เปรียบเสมือนศิลปะแขนงหนึ่ง โดยในงานนี้คุณปาล์มยังได้นำเสนอหนึ่งในค็อกเทลที่รังสรรค์จาก PHRAYA กับธาตุน้ำ ที่เรียกว่า อาโป สื่อถึงความสดชื่นด้วยน้ำสับปะรด เสิร์ฟเป็น welcome drink ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูที่จะนำไปโชว์ฝีมือที่ประเทศสิงคโปร์ในเดือนกลางเดือนมิถุนายนนี้ปิดท้ายด้วย ‘ลีออน ทัน’ Head Bartender จาก Native ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบาร์ที่มีความโดดเด่นในการนำเสนอกลิ่นอายวัฒนธรรมแห่งชนชาติตะวันออกอย่างแท้จริง ด้วยการใช้วัตถุดิบต่างๆ จากแหล่งกำเนิดในภูมิภาคเอเชีย และใช้เครื่องดื่มแบรนด์ต่างๆ จากเอเชียเท่านั้น แม้แต่ผ้ากันเปื้อนงานแฮนด์เมดก็มาจากวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่นซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน และดนตรีที่เปิดในบาร์ยังเป็นผลงานจากศิลปินชาวเอเชียทั้งหมด นอกจากนี้ Native ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง ตามแนวคิด Sustainable Bartending ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นกรรมวิธีถนอมอาหารเพื่อยืดอายุของวัตถุดิบ การนำวัสดุรักษ์โลกที่นำมาใช้ภายในบาร์ เช่น การงดใช้หลอดพลาสติก ใช้ถาดรองแก้วแปรรูปจากใบบัวอบแห้ง เป็นต้น และยังมีความโดดเด่นด้านการจัดการขยะที่ Native ได้ชื่อว่าเป็นบาร์ที่มีการลดปริมาณขยะได้สูงสุดแห่งหนึ่ง โดยมีปริมาณขยะเพียง 50 กรัมต่อเดือน
ด้านเทรนด์การดื่มในประเทศสิงคโปร์นั้น ลีออนเล่าว่าเป็นการดื่มที่เต็มไปด้วยสีสัน มีความหลากหลายอย่างมาก และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการเปิดบาร์ค็อกเทลเพิ่มขึ้นในสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่แสวงหาความแปลกใหม่จากเครื่องดื่ม หลังจากนั้น ลีออนได้นำเข้าสู่ช่วงไฮไลต์ของงาน คือการ Swap Bar เพื่อเนรมิต 4 เมนูค็อกเทลใหม่ที่ใช้ PHRAYA เป็นเบส และเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสถึง Craft of Refinement ที่แท้จริง โดยมีแรงบันดาลใจจากความเป็นไทยในแบบที่เขาสัมผัส ผ่านค็อกเทลทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ EARTH, WATER, FIRE และ AIR
- EARTH นำเสนอแรงบันดาลใจของผืนดินที่ทำให้พืชพรรณงอกงามด้วยดอกอัญชัน น้ำส้มสายชูจากอ้อย ขนุน และ Calamansi Tonic
- WATER ได้รับแรงบันดาลใจจากเมนูข้าวแช่ของไทย สื่อถึงความสดชื่นของกลิ่นมะลิจาก Jasmine Flower Koji น้ำสับปะรด และกลิ่นหอมของใบเตยจาก Pandan Water Kafir ตกแต่งด้วยแผ่นข้าวตังกรอบด้านบน
- FIRE สื่อถึงไฟด้วยรสชาติเผ็ดร้อนที่มาพร้อมกลิ่นหอม ด้วยส่วนผสมของน้ำสกัดจากแกงเขียวหวานโดยเทคนิคการกลั่นของทาง Native ที่เรียกว่า Green Curry Distillate พริกขี้หนู น้ำมะพร้าว และมะพร้าวรมควัน
- AIR ได้รับแรงบันดาลใจจากสายลมเย็นที่ใช้น้ำส้มโอ ผสานเข้ากับ Triona Mead และ Ginger Kombucha ที่ผสานด้วยรสชาติของขิง
ร่วมสัมผัสค็อกเทล 4 เมนูใหม่ที่รังสรรค์จากแรงบันดาลใจของ PHRAYA GOLD RUM ได้ที่ร้าน Vesper ซอยคอนแวนต์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมติดตามเรื่องราวและกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ ได้ที่ facebook.com/phrayaagedrum
#MeetTheCraft #PHRAYARUM #GoldRum #AgedRum