บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ในเครือชาริช โฮลดิ้ง เปิดบันทึกหน้าสำคัญ ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย เปิดตัว ‘ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ’ โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกรวมทั้งเป็นหนึ่งในศูนย์บริการ ที่สามารถรองรับรถเข้าซ่อมบำรุงได้มากที่สุดของทุกภูมิภาค
หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2561 และการเปิดตัวรถยนต์ลัมโบร์กินี อูรุส ซูเปอร์เอสยูวีที่เร็วที่สุดในโลก ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายในชีวิตประจำวัน เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2561 ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ลัมโบร์กินีในประเทศไทยอย่างจริงจัง
โชว์รูม และศูนย์บริการของลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็นพื้นที่ภายในโชว์รูม 465 ตารางเมตร พื้นที่ภายในศูนย์บริการกับคลังอะไหล่ 1,720 ตารางเมตร และพื้นที่สำนักงานกับพื้นที่ใช้สอยเบ็ดเตล็ดอีก 2,538 ตารางเมตร ที่ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิตนายเฟเดอริโก ฟอสชินี ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี จำกัด กล่าวว่า “ลัมโบร์กินีได้พิสูจน์ถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2561 ยังคงประสบความสำเร็จอย่างสูงติดต่อกันเป็นปีที่ 8 ซึ่งยืนยันถึงความยั่งยืนของกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์รถซูเปอร์สปอร์ต และด้านการค้าของเรา นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นั่นคือการเปิดตัวกระทิงดุสายพันธุ์ใหม่ ‘ลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว’ Lamborghini Huracán EVO ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการยกระดับผลิตภัณฑ์ ภายใต้กลยุทธ์การบริหารแบรนด์รถซูเปอร์สปอร์ต ควบคู่ไปกับรถซูเปอร์เอสยูวี”
นายมัตเตโอ ออเทนซี่ ประธานกรรมการบริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี จำกัด กล่าวว่า “ลัมโบร์กินี เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และได้รับการยอมรับเชื่อถือจากลูกค้าทั่วโลก การประกาศแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายใหม่ได้ช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์ของเราให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยการได้ร่วมงานกันระหว่างลัมโบร์กินี และบริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ในเครือชาริช โฮลดิ้ง จะช่วยสื่อสาร คุณค่า ภาพลักษณ์ และแนวทางการดำเนินงานอันน่าเชื่อถือ ไปยังแฟนลัมโบร์กินีทั้งกลุ่มลูกค้า และผู้ที่สนใจ โดย ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ จะยิ่งช่วยเสริมแบรนด์ที่แข็งแรงอยู่แล้วให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
การเป็นเจ้าของรถลัมโบร์กินีหมายถึงเอกสิทธิ์ในระดับสูงสุดของการขับขี่ ดังนั้น ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ จึงเน้นการดูแลรถซูเปอร์คาร์ในมาตรฐานชั้นนำระดับโลก เพื่อให้เจ้าของรถผู้ทรงเกียรติ และผู้มาเยือนทั้งหลายได้สัมผัสกับประสบการณ์เสมือนการได้รับบริการจากโรงแรมระดับ 6 ดาว รวมถึงการซ่อมบำรุงที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานระดับเวิลด์คลาส
โชว์รูมและศูนย์บริการของลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ มีการตกแต่งภายนอกที่สะดุดตาด้วยโลโก้ลัมโบร์กินีสีเหลืองบนพื้นหลังสีดำ เมื่อเข้ามาด้านในผู้มาเยือนจะ ‘สัมผัสและรู้สึก’ ได้ถึงประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแห่งจิตวิญญาณของลัมโบร์กินี โดยเฉพาะห้อง AdPersonam ที่สามารถเลือกปรับแต่งรถลัมโบร์กินีให้สะท้อนบุคลิกได้ตามต้องการ พร้อมเห็นตัวอย่างการตกแต่งภายนอกและภายในด้วยระบบ Interactive
- ศูนย์บริการลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ เป็นศูนย์บริการแบบครบวงจรแห่งแรกที่เป็นห้องแบบปิดพร้อมติดระบบปรับอากาศทั้ง 7 ช่องซ่อมพร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องมือที่ครบถ้วน และทีมงานที่มีความรู้ และประสบการณ์มากกว่า 20 ปี สามารถรองรับรถลัมโบร์กินีได้มากกว่า 1,000 คันต่อปี ทำให้มั่นใจได้ว่าทีมงานสามารถวิเคราะห์สภาพรถ และปรับแต่งให้รถหรูของทุกท่านพร้อมโลดแล่นด้วยสมรรถนะสมบูรณ์แบบมากที่สุด
ในงานฯ ยังได้จัดแสดง ‘Lamborghini Aventador SVJ’ ให้แฟนพันธุ์แท้ลัมโบร์กินีในเมืองไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรกอีกด้วย โดย ลัมโบร์กินี อเวนทาดอร์ เอสวีเจ เป็นรถยนต์แบบโปรดักชั่น ที่สามารถทำลายสถิติเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในสนามนูเบิร์กริง (ด้วยเวลาเพียง 6.44.97 นาที) ใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ที่สามารถรีดพละกำลังสูงสุดถึง 770 แรงม้า ข่วยให้ทะยานจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 2.8 วินาทีเท่านั้น
นอกจากสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว อเวนทาดอร์ เอสวีเจ มาพร้อมกับ
ระบบอากาศพลศาสตร์ ALA (Aerodynamica Lamborghini Attiva) 2.0 ที่ถูกพัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีประสิทธิภาพในการจัดการอากาศได้ดีกว่ารุ่น อเวนทาดอร์ เอสวีเจ ถึง 40% ส่งผลให้อเวนทาดอร์ เอสวีเจ เป็นกระทิงเปลี่ยวที่ดุดันที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ลัมโบร์กินี