แกร็บ เปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday ในประเทศไทย แนะนำหลากหลายฟีเจอร์ใหม่ เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางขนส่งแก่ผู้ใช้
Oct 21, 2018

แกร็บ เปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday ในประเทศไทย แนะนำหลากหลายฟีเจอร์ใหม่ เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางขนส่งแก่ผู้ใช้ นำโดย (ขวาสุด) นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ซ้ายสุด) นางสาวมนรวี อำพลพิทยานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย ร่วมด้วยนางสาวนิษฐา จิรยั่งยืน หรือ มิว

● เตรียมเพิ่มการลงทุนในระบบความปลอดภัยเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2562 ที่กำลังมาถึง
● เทคโนโลยี Safer Everyday ประกอบด้วยหลากหลายฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ล่าสุด เพื่อป้องกันการเกิดเหตุไม่คาดฝันและเสริมสร้างพฤติกรรมการขับขี่ปลอดภัยซึ่งจะนำไปสู่ความปลอดภัยบนท้องถนนที่ยั่งยืน
● การร่วมสนับสนุนแคมเปญ UNiTE to End Violence against Women ของเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก

แกร็บ ผู้นำแพลตฟอร์มแบบ Online to Offline เดินหน้าผลักดันวิสัยทัศน์ระดับภูมิภาค เปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday แนะนำฟีเจอร์และบริการความปลอดภัยใหม่ล่าสุดหลากหลายรายการเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางขนส่งของผู้ใช้  โดยฟีเจอร์และบริการความปลอดภัยใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวนั้นรวมถึงระบบสอดส่องเพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและการรายงานพฤติกรรมการขับขี่เพื่อให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ทราบและตระหนักถึงการขับขี่อย่างปลอดภัย ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน โดย แกร็บ ยังวางแผนเพิ่มการลงทุนในระบบความปลอดภัยเพิ่มเป็นสองเท่าจวบจนปลายปี 2562 ที่กำลังมาถึง


“ธุรกิจของเราเริ่มต้นจากความพยายามที่จะมอบการเดินทางที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน” นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าว “เราเชื่อว่าความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญ เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงสุดเป็นอันดับสองของโลกและมีผู้เสียชีวิตมากถึง 24,000 คนในแต่ละปี ปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนนจึงเป็นสิ่งที่แกร็บให้ความใส่ใจและต้องการเข้ามาช่วยเหลือในการแก้ไข”

“แกร็บ ตระหนักดีว่าผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของเราทุกคนมีคนที่รักและห่วงใยซึ่งเฝ้ารอให้พวกเขาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย นี่คือเหตุผลที่ในวันนี้ ที่ถึงแม้บริษัทฯ จะมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมและธุรกิจของเราจะเติบโตขึ้นหลายเท่า ความปลอดภัยก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เรายึดถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมขยายเพิ่มการลงทุนด้านความปลอดภัยเป็นสองเท่าในปีหน้า การเปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของแกร็บในระดับภูมิภาค โดยแกร็บ ถือเป็นผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแอพลิเคชั่นเพียงรายเดียวที่ลงทุนในความปลอดภัยที่สำคัญ อาทิ การจัดให้มีศูนย์ให้บริการคอลล์เซ็นเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ฟีเจอร์การปกปิดเบอร์มือถือผู้ใช้ และการตรวจสอบประวัติผู้ที่มาสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ตลอดจนการยืนยันแอคเคาท์ผู้ใช้อย่างเข้มงวด”
ด้วยเหตุนี้ แกร็บ จึงสามารถลดจำนวนเหตุไม่พึงประสงค์ที่เกิดบนแพลตฟอร์มได้มากถึง 40% นับจากไตรมาสสามในปี 2560

ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ แกร็บ ได้มีการปรับโฉมแอพพลิเคชั่นเพื่อมุ่งสู่การเป็นซูเปอร์แอพที่ตอบรับความต้องการในทุกวันของภูมิภาค โดยปรับดีไซน์ใหม่ให้มีความสวยงาม ใช้งานง่าย และตอบรับความต้องการหลากหลายด้วยฟีเจอร์ใหม่ อาทิ หน้าเมนูที่แบ่งแยกประเภทของบริการ หน้าข่าวสารที่ได้รับการคัดสรรให้เหมาะสำหรับแต่ละพื้นที่ แคตตาล็อกของสมนาคุณแกร็บรีวอดส์ และเกมส์ต่างๆ

เทคโนโลยี Safer Everyday
เทคโนโลยี Grab’s Safer Everyday ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโฉมและเปิดตัวเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ๆ ต่างๆ ที่มุ่งยกระดับความปลอดภัยให้กับลูกค้า พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พาร์ทเนอร์คู่ค้า พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการขนส่ง รวมไปถึงการทำธุรกรรมจับจ่ายบนแอพพลิเคชั่นแกร็บ
ตัน ฮุ่ย หลิง ผู้ร่วมก่อตั้ง แกร็บ กล่าวว่า “ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่แกร็บ ได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับทั้งอุตสาหกรรมเดินทางขนส่งของภูมิภาค เทคโนโลยี Safer Everyday จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยของแกร็บ โดยเรามีเป้าหมายที่จะผลักดันให้อัตราการเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ต่างๆ ที่เราสามารถป้องกันได้ให้เหลือศูนย์ พร้อมทั้งช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุหากเป็นไปได้ ปัจจัยหลักที่จะทำให้เป้าหมายของเราสำเร็จนั้นคือการทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยบนท้องถนน”

ทั้งนี้ ฟีเจอร์ต่างๆ ในมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ของแกร็บ ได้แก่
1. การยืนยันตัวตนผู้ร่วมทาง ทั้งพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร – ขั้นตอนการยืนยันตัวตนที่เพิ่มความโปร่งใสและไว้วางใจด้วยระบบยืนยันตัวตนผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พร้อมการตรวจสอบประวัติพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ละเอียดเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และบัญชีพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน
2. ขอความช่วยเหลือทันท่วงที – การเพิ่มฟีเจอร์แชร์มายไรด์  (Share My Ride) และปุ่มแจ้งเตือนฉุกเฉิน (Emergency SOS) ซึ่งปัจจุบันมีเฉพาะในแอพสำหรับผู้โดยสาร ให้มีในแอพของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ด้วย เพื่อให้สามารถแชร์ตำแหน่งที่ขับขี่อยู่ ณ ปัจจุบันให้แก่คนที่รักและห่วงใย
3. เสริมสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย – เทคโนโลยีการวิเคราะห์ของ แกร็บ สามารถช่วยให้                พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่เข้าใจถึงพฤติกรรมการขับขี่ของตนเองและสิ่งที่สามารถปรับปรุง ระบบตรวจสอบความเหนื่อยล้าในการขับขี่ของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ (Driver Fatigue Monitoring System) จะส่งข้อความเตือนและแนะนำให้พัก หากพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่มีการรับงานติดต่อกันนานเกินระยะเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ยังจะได้รับรายงานพฤติกรรมการขับขี่จากระบบเทเลมาติกส์ (Telematics) ซึ่งบอกถึง พฤติกรรมการเร่งความเร็ว การเบรก และการวิเคราะห์อื่นๆ ที่จะมีมาเพิ่มเติมในอนาคต ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดตัวระบบเทเลมาติกส์ มีเหตุที่เกิดจากการขับรถเร็วลดลง 50% นอกจากนี้ พฤติกรรมการเบรกและเร่งความเร็วแบบกะทันหันซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุก็ลดลงถึง 20%
4. ปลอดภัยในทุกขั้นตอน – มาตรฐานความปลอดภัยของ แกร็บ ยังครอบคลุมการตรวจตราพฤติกรรมที่น่าสงสัย พร้อมมอบการทำธุรกรรมจับจ่ายที่ปลอดภัย และระบบปกป้องข้อมูลที่รัดกุม

โดยในประเทศไทย แกร็บ ได้สนับสนุนโครงการ UNiTE โดยเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งมีการดำเนินงานมายาวนานและมีเป้าหมายเรียกร้องให้รัฐบาล ประชาสังคม องค์กรเพื่อสตรี เยาวชน เอกชน สื่อมวลชน และเครือข่ายสหประชาชาติ ร่วมมือกันป้องกันและต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลก โดยภายใต้การสนับสนุนโครงการนี้ แกร็บจะดำเนินการรณรงค์ความปลอดภัยผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้เกี่ยวกับความปลอดภัย การจัดทำป้ายข้อมูลรณรงค์ความปลอดภัยภายในรถที่ให้บริการ บทความทางออนไลน์ และช่องทางอื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความสำคัญของความปลอดภัยของผู้หญิงและผู้เดินทางทั่วไป

• ในกัมพูชาและเมียนมาร์ – แกร็บมุ่งเน้นการให้การศึกษาเรื่องความปลอดภัยและการอบรมผู้ขับขี่   สามล้อ โดยแกร็บจะทำงานร่วมกับกระทรวงขนส่งและโยธาธิการในกัมพูชา และร่วมกับสำนักงานตำรวจในเมียนมาร์
• ในฟิลิปปินส์ – แกร็บ ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมาธิการกำกับการดูแลการขนส่ง (LTFRB) และกองปราบปรามยาเสพติดเพื่อกำจัดอาชญากรรมในอุตสาหกรรมการขนส่ง พร้อมอบรมให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่สามารถให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินเมื่อพบอุบัติเหตุหรือมีภัยธรรมชาติ
• ในสิงคโปร์ – พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของแกร็บที่ต้องเผชิญความเสี่ยงจากการให้บริการขับขี่เป็นระยะเวลานาน จะได้รับการดูแลทางการแพทย์ จากความร่วมมือของแกร็บกับสำนักงานคณะกรรมการด้านสุขภาพ

“ทุกคนที่แกร็บรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เราคือผู้ยกระดับมาตรฐานการเดินทางที่ปลอดภัย ย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผู้คนยังต้องต่อรองค่าโดยสารเวลาใช้บริการแท็กซี่หรือบริการมอเตอร์ไซค์ แล้วก็ไม่รู้ว่าคนขับเป็นใครแต่ก็จำเป็นต้องฝากชีวิตไว้กับคนแปลกหน้า แต่วันนี้ พวกเขารู้ได้ทันทีว่าผู้ขับขี่ที่มารับเป็นใคร ใครมาส่งอาหารและนำเอกสารมาให้ แถมรู้ค่าโดยสารก่อนที่จะขึ้นรถเสียอีก ที่สำคัญ คนที่ห่วงใยของพวกเขาก็สามารถติดตามเส้นทางที่พวกเขาไปได้ตลอดการเดินทาง จวบจนวันนี้ แกร็บจะยังคงก้าวต่อไปไม่หยุดยั้ง  เราตระหนักดีว่ายิ่งธุรกิจของเราขยายและเติบโตเท่าไหร่ ภาระและหน้าที่ของเราในการมอบความปลอดภัยในทุกการเดินทางของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และทุกคนที่พวกเขารัก ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน” นายธรินทร์ กล่าวสรุป

Subscribe me