วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย รุดดำเนินงานตามแคมเปญรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนน (Road Safety Campaign) เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในเมืองไทย พร้อมตอกย้ำสถานะผู้นำด้านนวัตกรรมความปลอดภัยในอุตสาหกรรมรถยนต์ระดับโลก โดยวอลโว่เล็งเห็นว่า ในแต่ละเดือนมีคนเดินถนนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุระหว่างเดินทางไปทำงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดระยองซึ่งมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงมาก และหนึ่งในจุดที่เกิดอุบัติเหตุคนถูกรถชนบ่อยที่สุดคือบริเวณรอบโรงเรียนวัดเกาะ ดังนั้น ในปีนี้วอลโว่จึงให้ความสำคัญกับการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนบริเวณโรงเรียนวัดเกาะ ผ่านการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมหลายรายการ ดังนี้
- จัดทำทางม้าลาย 3 จุด พร้อมเส้นชะลอความเร็วบนถนนเส้นหลักตามจุดยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุ
- วอลโว่บริจาคป้ายและเครื่องหมายจราจรเพื่อการขับขี่และการใช้ถนนอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุให้แก่ชุมชน
- แจกหมวกกันน็อกจำนวน 100 ใบแก่นักเรียน พร้อมจัดกิจกรรมการเพ้นท์หมวกกันน็อกเพื่อให้เด็ก ๆ ได้สร้างสรรค์หมวกกันน็อกในรูปแบบที่ตนชื่นชอบ
- มอบเสื้อจราจรสะท้อนแสง Safety Vest ให้แก่นักเรียนเพื่อสวมป้องกัน อุบัติเหตุในการเดินทางบนท้องถนน
- จัดโปรแกรมข่าวสารบันเทิง (อินโฟเทนเมนท์) เพื่อมอบองค์ความรู้ด้านความปลอดภัยบนท้องถนนแก่เด็กนักเรียนและผู้ปกครอง ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ อาท
- ความปลอดภัยจากสัญญาณไฟจราจร การดูป้ายสัญญาณจราจร และวิธีการข้ามทางม้าลายอย่างปลอดภัย
- วอลโว่จะสร้างสนามเด็กเล่นและเชิญคณะผู้บริหาร พนักงาน ผู้จำหน่าย ลูกค้าของวอลโว่ สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่ มาทำกิจกรรมกับเด็กนักรียนแล
- ช่วยกันทาสีสนามเด็กเล่น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการร่วมแรงร่วมใจและความมุ่งมั่นเพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนร่วมกัน
ปี 2019 นี้ถือเป็นปีที่ครบรอบ 60 ปีของการนำเสนอนวัตกรรมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ซึ่งวอลโว่นำเสนอครั้งแรกในปี ค.ศ. 1959 นวัตกรรมนี้ได้ถูกแบ่งปันแก่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นเพื่อช่วยยกระดับความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารในรถยนต์ และป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนในภาพรวม ซึ่งนวัตกรรมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดได้ช่วยปกป้องชีวิตของผู้คนมาแล้วมากกว่าล้านคนทั่วโลก นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี ค.ศ. 1927 แบรนด์วอลโว่จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความปลอดภัยบนท้องถนน มิใช่จากการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้รถยนต์ของวอลโว่เท่านั้น หากยังมีการแบ่งปันองค์ความรู้แก่ผู้ผลิตรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรมรถยนต์
จังหวัดระยองมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 4,719 ครั้งและมีผู้เสียชีวิตจำนวน 236 คน โดยเป็นอุบัติเหตุจากจักรยานยนต์ 4,660 ครั้ง ซึ่งทำให้224 ครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ส่วนอุบัติเหตุจากรถยนต์มี 59 ครั้งในปีที่ผ่านมา และทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน ซึ่งพื้นที่ที่เราเข้าไปจัดกิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนนครั้งนี้ ถือเป็นพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของจังหวัดระยอง
การให้การศึกษา และมอบอุปกรณ์ความปลอดภัยที่จำเป็น ซึ่งรวมถึงป้ายสัญญาณจราจร การจัดทำทางม้าลาย และการมอบหมวกกันน็อกจำนวน 100 ใบแก่ผู้ที่ขับขี่จักรยานยนต์ในชีวิตประจำ จะสามารถช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างได้ผล
เมื่อปีที่ผ่านมา การดำเนินงานขั้นแรกในแคมเปญรณรงค์ความปลอดภัยบนท้องถนนของวอลโว่ คือการบริจาคเสื้อนิรภัยคุณภาพสูงจำนวน 10,000 ตัวให้แก่โรงเรียนมีชัยพัฒนาในเครือมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ โดยโรงเรียนมีชัยพัฒนาได้นำเสื้อนิรภัยนี้ไปแบ่งปันแก่โรงเรียรัฐบาลในพื้นที่ห่างไกลอีก 158 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและรายได้โดยมีโรงเรียนเป็นศูนย์กลาง” หรือ “School-Based Integrated Rural Development Project (School-BIRD)” เพื่อยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนสำหรับเด็กนักเรียนและครอบครัว โดยโรงเรียนวัดเกาะเป็นสถาบันการศึกษาอีกแห่งหนึ่งในเครือมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ ซึ่งได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานขั้นแรกนี้
ซึ่งในครั้งนี้ สื่อมวลชนกว่า 30 ท่านได้ร่วมเดินทางไปกับรถยนต์วอลโว่รุ่น XC40, XC60, XC90 และ S90 ในทริปการเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ – ระยอง ซึ่งนับเป็นโอกาสดีในการนำเสนอนวัตกรรมความปลอดภัย IntelliSafe และเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ซึ่งติดตั้งเป็นฟีเจอร์มาตรฐานในรถยนต์วอลโว่ มาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงในรถยนต์วอลโว่รุ่นใหม่เหล่านี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้วอลโว่สามารถบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามวิสัยทัศน์ด้านความปลอดภัยในการลดอุบัติเหตุ และมุ่งสู่วิสัยทัศน์ปี ค.ศ. 2020 ของแบรนด์ที่กล่าวว่า ต้องไม่มีใครเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสในรถยนต์วอลโว่รุ่นใหม่นับจากปี 2020
IntelliSafe คืออุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานในรถยนต์วอลโว่รุ่นใหม่ทุกรุ่น โดยเป็นชุดระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะที่ทำงานประสานกันเพื่อสร้างความสะดวกสบายในทุกสภาวะการขับขี่ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดความยุ่งยากในการควบคุมและเพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่ตลอดเส้นทาง
เทคโนโลยี IntelliSafe ประกอบด้วยฟีเจอร์การทำงานดังนี้
- City Safety ช่วยปกป้องผู้คนภายในและภายนอกรถยนต์ด้วยการตรวจจับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและช่วยให้ผู้ขับสามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยระบบ City Safety จะใช้เทคโนโลยีเรดาร์และกล้องเพื่อระบุยานพาหนะ ผู้ปั่นจักรยาน คนเดินถนน และสัตว์ใหญ่ต่าง ๆ โดยทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน และยังเตือนผู้ขับหากตรวจพบว่ากำลังจะเกิดการชนปะทะ หากผู้ขับไม่มีการตอบสนองที่ทันเวลา ระบบจะช่วยหยุดรถโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชนปะทะ
- Pilot Assist ถูกออกแบบเพื่อช่วยเหลือการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาดโดยทำงานประสานกับฟีเจอร์อื่น ๆ เพื่อให้ผู้ขับสามารถควบคุมรถยนต์ได้ตลอดเวลา ระบบจะช่วยลดความตึงเครียดของผู้ขับในสถานการณ์ที่น่าเบื่อหน่ายและเพิ่มระดับความปลอดภัยมากขึ้น โดยจะรักษาระดับความเร็วและระยะห่าง พร้อมกำหนดตำแหน่งให้ขับขี่อยู่ในช่องทางเดินรถอย่างเที่ยงตรงและสม่ำเสมอ
- Oncoming Lane Mitigation ช่วยให้ผู้ขับสามารถหลีกเลี่ยงการชนปะทะกับยานพาหนะคันอื่นที่แล่นสวนทางมา ระบบจะทำการเตือนผู้ขับเมื่อขับขี่ออกนอกช่องทางโดยไม่เจตนาและจะช่วยหมุนพวงมาลัยกลับโดยอัตโนมัติเพื่อนำรถกลับเข้าช่องทางของตนเองและหลีกเลี่ยงรถยนต์ที่แล่นสวนทางมา (ทำงานที่ระดับความเร็ว 60-140 กม./ชม.)
- Blind Spot Information System ระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ทราบถึงตำแหน่งของรถยนต์ตัวเองในจุดบอดต่าง ๆ โดยได้รับการอัพเดตเพิ่มฟีเจอร์การช่วยหมุนพวงมาลัยเพื่อหลีกเลี่ยงการชนปะทะกับรถยนต์คันอื่น ๆ ในตำแหน่งจุดบอด โดยการหมุนพวงมาลัยกลับเข้าช่องเดินรถของตนเองให้ออกห่างจากอันตราย