ไปลองมาแล้ว! บอกได้เลยว่าเฟี้ยวทุกตัว ก็แน่ละรถยนต์ระดับ BMW จะไม่เฟี้ยวได้ไง การทดสอบรถครั้งนี้เป็นการเชิญชวนจากทาง บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ที่อยากจะมอบประสบการณ์การขับขี่ BMW Series3 ใหม่ล่าสุด 2 รุ่นย่อย อย่าง BMW 320d Sport กับ BMW 330i M Sport และตบท้ายด้วยพี่บึ้ก BMW X5 xDrive30d M Sport งานนี้บอกได้เลยว่าแค่เห็นรถก็รู้แล้วว่าเค้าจัดการทดสอบให้แบบครบรส ครบอารมณ์อย่างแน่นอน ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์ จังหวัดปทุมธานี
ในการทดสอบ BMW Series 3 และ BMW X5 ในครั้งนี้ เราจะได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่ผ่านด้านทดสอบถึง 3 ด่าน เริ่มด้วยการทดสอบความเร็วบนทางเรียบ การทดสอบความคล่องตัวปราดเปรียวในการขับขี่แบบ Gymkhana และในด่านนี้จะมีการทดสอบฟังก์ชั่น Reversing Assistant ที่มีเฉพาะใน BMW 330i M Sport และสุดท้ายจะได้ออกไปทดลองการขับขี่บนถนนจริงอีกด้วย เพื่อที่เราจะได้สัมผัสถึงการใช้งานรถยนต์ทั้งสองรุ่นบนถนนหลวงเหมือนการใช้งานจริงในทุกๆ วัน ส่วนในการทดสอบ BMW X5 จะได้ลองสมรรถนะของระบบช่วงล่างแบบ Adaptive M และระบบการขับเคลื่อนต่างๆ บนเส้นทางแบบออฟโรด ทั้งทางลูกรัง พื้นหญ้า และเนินดินกันอย่างเต็มที่หลังจากที่ได้เข้าห้องรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับเจ้า BMW Series 3 ทั้ง 2 รุ่นย่อยและ BMW X5 แล้วก็ลงไปลุยในสนามทดสอบกันเลยในสถานีทดสอบแรกจะเป็นการขับรถด้วยความเร็วบนทางเรียบซึ่งจะมีทั้งทางตรงทางโค้ง โค้งหักศอก โค้งต่อเนื่อง โค้งยูเทริน์ ก่อนที่จะมาชะลอความเร็วเพื่อเตรียมตัวเข้าด่านหักหลบต่อเนื่องหรือชื่ออย่างเป็นทางการ ’เอลก์เทส’ (Elk Test)
SPEED & ELK TEST
เมื่อทุกคนพร้อมแล้วก็ขึ้นประจำรถกันได้เลย โดยเลือกนั่งตามความชอบใจใครอยากลองรุ่นไหนก่อนก็ขึ้นประจำที่พร้อมปรับตำแหน่งนั่งให้เหมาะสม ซึ่งจุดนี้สำคัญมากเพราะในสถานีนี้จะเป็นสถานีที่ต้องใช้ความเร็ว การนั่งในตำแหน่งที่ถูกต้องจะทำให้เราควบคุมรถได้ดี เมื่อพร้อมแล้วก็ลุยกันเลย กฎง่ายๆ ก็คือทุกคันจะวิ่งตามรถของอินสตักเตอร์ และในขบวนจะไม่แซงกันคันแรกผมเริ่มจาก BMW 320d Sport บอกได้เลยว่าขับสนุกมากและสามารถทำความเร็วได้ดีขับสบายช่วงล่างนุ่มกระชับ หลังจากขับวนอยู่ 5 รอบจนเริ่มคุ้นชินกับรถแล้วก็ลองเพิ่มความเร็วขึ้น ในการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงรถก็มีอาการท้ายออกให้ตื่นเต้นอยู่เหมือนกันแต่ด้วยระบบช่วยเหลือต่างๆ ของ BMW 320d Sport ก็ทำให้เราขับครบรอบด้วยความมั่นใจ
ในส่วนการเข้าด่านเอลก์เทส ผมได้ลองขับ BMW 320d Sport เข้าทดสอบด้วยความเร็ว 3 ระดับโดยเริ่มจากความเร็ว 50 กม/ชม ไปจนถึง 70 กม/ชม ในช่วงความเร็ว 50 กม/ชม มันช่างง่ายดายเหมือนเห็นเป็นภาพสโลว์ แต่ในชีวิตจริงเรามีโอกาสประสพเหตุที่ 70 กม/ชม ขึ้นไป บอกได้เลยว่าถ้ารถไม่ดีจริงประกอบกับไม่มีสติรับรองว่าเละแนะนอนในรอบต่อมาผมได้สลับไปขับ BMW 330i M Sport แม้จะเป็นรถ BMW Series 3 เหมือนกันแต่อารมณ์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเพราะ BMW 330i M Sport มีความดุดันกว่ามาก แค่แตะคันเร่งเบาๆ ก็พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้า ความสนุกเร้าใจจึงทวีคูณเพิ่มขึ้นต่างกับการขับ BMW 330d Sport เพราะเราสามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วได้มั่นใจกว่า ในส่วนของด่านเอลก์เทส ก็สามารถหักหลบได้กระชับฉับไว จนต้องขอลองเข้าด่านนี้ด้วยโหมด Sport ที่ความเร็ว 80 กม/ชม บอกได้เลยว่าตื่นเต้นจนหัวใจแทบหลุดออกมาจากอกเพราะในโหมด Sport รถจะยอมให้เราสนุกกับการควบคุมรถด้วยตัวเอง อาการท้ายปัดจึงแสดงออกมา แต่ด้วยความฉลาดของรถ BMW จึงทำให้เรายังคงควบคุมรถได้ง่ายแและปลอดภัยคันสุดท้ายของสถานีนี้ที่ผมได้ลองขับคือเจ้าบึ้ก BMW X5 xDrive30d M Sport ผมรู้ได้ทันทีที่ได้ขับมันว่าทำไมต้องเอา X5 มาอยู่ท้ายขบวน เพราะ X5 เป็นรถที่มีพละกำลังเหลือล้นและเราจะไม่รู้สึกถึงความเร็วของมันแม้จะวิ่งความเร็วทะลุ 100 กม/ชม ไปแล้วเพราะด้วยรถมีขนาดใหญ่กับช่วงล่างที่นิ่ง พร้อมการเก็บเสียงรบกวนที่ดีทำให้เราไม่รู้สึกถึงความเร็วจนเผลอเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงทำให้รถยุบตัว พอเป็นรถที่มีความสูงการยุบตัวจึงมากกว่ารถ BMW Series 3 ที่ขับมาก่อนหน้าเล่นเอาสะดุ้งใจหายอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อรู้อาการรถแล้วก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับรถ BMW X5 xDrive30d M Sport ได้ไม่ยาก
GYMKHANA
ความมันส์จากสถานีก่อนหน้ายังไม่ทันจาง ก็มาต่อกันที่สถานี ยิมคาน่า เป็นสถานีทดสอบความคล่องตัวของรถโดยในสถานีนี้จะใช้ BMW 330i M Sport ในการทดสอบเพราะไฮไลท์จะอยู่ที่ระบบจำทางย้อนกลับ Reversing Assistant ระบบจะจำเส้นทางในระยะ 50 เมตร และความเร็วจะต้องไม่เกิน 36 กม/ชม เรียกว่าวิ่งไปยังไงหักเลี้ยวซ้ายขวากี่องศารถมันจะจำไว้หมด ถ้าในชีวิตจริงเรียกได้ว่าหมดปัญหาเรื่องซอยเล็ก ซอยแคบ ซอยตัน แค่กดปุ่มรถก็จะถอยกลับมาให้เอง
ในสถานีนี้ความสนุกจะอยู่ที่จะมีการจับเวลาว่าใครวิ่งทำเวลาต่อรอบได้ดีกว่ากัน แต่มันจะไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเพราะเมื่อวิ่งออกไปถึงจุดที่กำหนดจะต้องทำการสั่งให้รถถอยออกมาเองโดยการใช้ ฟังก์ชัน BMW Reversing Assistant วิธีการก็ง่ายๆ แค่กดที่ปุ่ม PDC (Parking Distant Control) แล้วแต่ไปที่ Reversing Assistant ที่หน้าจอควบคุมกลางคอนโซล จอจะขึ้นคำสั่งให้เราเข้าเกียร์ถอยหลัง แค่นี้รถก็จะทำการถอยหลังให้จนถึงจุดที่เรากำหนดโดยเราจะเหยียบเบรกเพื่อให้รถหยุดสนิทเท่านั้น
ใครทำระบบผิดพลาดหรือหยุดกลางทางก็จะไม่ได้คะแนน บอกได้เลยว่าอยากให้ลองเพราะถ้าเราถอยเองบอกได้เลยว่ายาก แถมตอนปล่อยให้รถถอยเองบอกเลยว่ามันส์มากเพราะรถจะถอยด้วยความเร็วประมาณ 9 กม/ชม ซึ่งเร็วกว่าเราถอยเองโดยปกติอย่างแน่นอน
HIGHWAY
การทดสอบครั้งนี้นอกจากจะได้ขับกันอย่างเต็มที่ในสนามปิดแล้วยังมีโอกาสได้ออกไปทดลองขับบนถนนหลวงด้วย จะได้รู้ว่ารถ BMW 320d Sport กับ BMW 330i M Sport และพี่บึ้ก BMW X5 xDrive30d M Sport เมื่อใช้บนถนนหลวงจริงๆ จะเป็นยังไง ระยะทดสอบก็ไม่ใกล้ไม่ไกลแต่ก็เพียงพอให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ผมได้เริ่มต้นด้วย BMW 330i M Sport สุดยอดความเร้าใจเสียงเครื่องเสียงท่อมาเต็ม และบอกได้เลยว่ามันมีความแรงเหลือเฟือ หรือมีมากเกินไปซะด้วยซ้ำสำหรับการขับรถบนถนนที่จำกัดความเร็วที่ 90 กม/ชม เพราะแค่แตะคันเร่งเบาๆ รถก็พร้อมจะพุ่งไปข้างหน้าแล้ว แต่ในจังหวะเร่งแซงอันนี้หายห่วงเพียงไม่กี่วินาทีก็สามารถเรียกความเร็วระดับ 100 อัพมาได้แบบไม่ต้องลุ้น แต่ก็ต้องมาตายกับถนนบ้านเราที่ทั้งขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ ไหนจะคอสะพานหักมหาโหดอีก ขับแล้วสงสารช่วงล่างของ BMW 330i M Sport มาก
พอถึงจุดหมายปลายทางผมก็ได้สลับมาขับ BMW 320d Sport สำหรับคันนี้แม้อัตราเร่งจะไม่ได้ปรี๊ดปราดจี๊ดจ๊าดเท่า BMW 330i M Sport แต่ส่วนตัวผมกลับชอบมากกว่าเพราะมันเหมาะกับการใช้บนถนนหลวงบ้านเรา มันให้ความนุ่มนวลมากกว่าทั้งอารมณ์การขับ และช่วงล่าง อัตราการเร่งก็ไม่ได้ขี้เหล่แต่อย่างใดสามารถเร่งแซงได้แบบทันใจเช่นกัน
สรุปโดยส่วนตัวแล้วจากการได้ลองขับ Series 3 ทั้ง 2 รุ่น ผมเห็นว่า BMW 320d Sport เหมาะกับการใช้จริงในชีวิตประจำวันมากกว่าเพราะให้ความนิ่มนวลในการขับมากกว่า แต่ถ้าต้องการความตื่นเต้นเร้าใจก็ต้องไป BMW 330i M Sport เพราะขับในสนามสนุกมากแต่ใช้บนถนนหลวงอาจจะสร้างความอึดอัดใจนิดนึง อันนี้แล้วแต่ชอบถ้าให้ดีซื้อ 2 คัน BMW 320d Sport ใช้ในวันธรรมดาส่วน BMW 330i M Sport ใช้ลงสนามแข่งกับเพื่อนในวันเสาร์อาทิตย์…โคตรเหลือบอกเลย
คันสุดท้ายของวันนี้ที่จะได้ลองขับบนถนนหลวงคือพี่บึ้ก BMW X5 xDrive30d M Sport สำหรับคันนี้เป็นคันที่สร้างความหวาดเสียวให้ผมมากที่สุดในสนามทดสอบ แต่พอได้ลองขับบนถนนหลวงแล้วบอกได้เลยว่าโคตรฟิน แม้จะเป็นรถที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่แต่ก็มอบความนุ่มนวลในการโดยสารเป็นอย่างมาก อัตราการเร่งก็เรียบเนียนสม่ำเสมอ เหมาะมากที่จะเป็นรถสำหรับผู้บริหาร ระบบช่วงล่างทำออกมาได้โคตรดีบนถนนเส้นเดียวกับที่เราขับ Series 3 มาเมื่อสักครู่ที่รู้สึกได้เลยว่าถนนมันโคตรจะดวงจันทร์มีหลุมมีรอยต่อของถนนที่สร้างแรงสะเทือนมาในห้องโดยสาร แต่สำหรับ BMW X5 xDrive30d M Sport นั้นแทบจะไม่รู้สึกถึงความพินาจของผิวถนนบ้านเรา ถือได้ว่าเป็นรถยนต์ที่มีช่วงล่างเทพมากๆ
ไฮไลท์ของการขับ BMW X5 xDrive30d M Sport วันนี้ไม่ใช่แค่การขับรถเล่นบนถนนหลวงแต่ยังมีการพาเข้าทางออฟโรดให้ได้ลองขับกันดูเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอคือแค่พอให้รู้สึกได้ว่าพี่บึกไม่ได้มีดีแค่ความหรูหรา แต่พี่ลุยได้ด้วย และที่สำคัญยังมีฟังก์ชัน BMW Reversing Assistant เหมือนกับใน BMW 330i M Sport ให้ได้ร้องว้าวกันอีกด้วย หมดปัญหาเรื่องรถใหญ่เข้าซอยเล็ก หรือปัญหาจอดรถในที่แคบอีกต่อไป
ก็ผ่านไปได้ด้วยดีกับทริปทดสอบรถยนต์ทั้ง BMW 320d Sport กับ BMW 330i M Sport และพี่บึ้ก BMW X5 xDrive30d M Sport เป็นการทดสอบที่ครบรสมาก สำหรับใครที่สนใจกิจกรรมดีๆ แบบนี้สามารถติดตามได้ที่ www.bmwultimatejoy.com และทาง facebook.com/bmwultimatejoy โปรแกรม BMW Ultimate JOY Experience มีกิจกรรมดีๆ และสิทธิพิเศษสุด JOY รอคุณอีกเพียบ
#BMWTH #BMW3Series #SayHelloBMW #JOYX #BMWprivilege #ONLYwithBMW