ออดี้ ประเทศไทย โดย บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Audi อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เดินหน้าเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นใหม่ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าต่อเนื่อง ล่าสุดเนรมิตบรรยากาศสุดอลังการ ที่ชั้น G เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Q Fascination” เปิดตัว ออดี้ Q5 เครื่องยนต์ดีเซล พวงมาลัยขวารุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในอาเซียน และเปิดตัว Q7 เครื่องยนต์ดีเซลสู่ตลาดเมืองไทย พร้อมอวดโฉม Q2 และ Q3 ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับเสน่ห์แห่งดีไซน์ หรูหรา สปอร์ต สะดวกสบาย และเทคโนโลยีเหนือระดับของรถ SUV ตระกูล Q ซีรีส์ ทั้ง 4 รุ่น
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด กล่าวว่า “เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบการบริการหลังการขายเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด รวมถึงการเร่งขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบ 4 ภาค เพื่อบริการลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง นอกจากนี้เรายังมุ่งนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้สัมผัสและเลือกเป็นเจ้าของได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับกลยุทธ์ในด้านผลิตภัณฑ์ เราดำเนินการภายใต้นโยบาย Right Product Right Price และ Product Variety เราได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก AUDI AG ในการเปิดตัวแนะนำรถยนต์ออดี้ รุ่นใหม่ๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้รถแต่ละรุ่นตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยให้มากที่สุด โดยตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ให้มากที่สุดในปีนี้ พร้อมสนับสนุนการวางกลยุทธ์ในด้านการบริการ และอะไหล่ในราคาที่เหมาะสม ทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ออดี้ได้อย่างสบายใจ”
New Audi Q5 เป็นยนตรกรรมหรูในกลุ่มรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่เปิดตัวในยุโรป มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน Q5 45 TFSI quattro S line และเครื่องยนต์ดีเซลในรุ่น Q5 35 TDI quattro โดยจุดเด่น ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน หรูหรา โฉบเฉี่ยวสวยงามทั้งภายในและภายนอก เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการพัฒนาล่าสุดแบบ quattro with ultra technology
โดยเทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาพร้อมกับการวางเครื่องยนต์แบบวางตามยาวที่ติดตั้งใน Audi Q5 generation ที่ 2 เป็นรุ่นแรกในรถ SUV ซึ่งเมื่อเริ่มขับเคลื่อน รถยนต์จะใช้การกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้ง 4 ล้อ ทั้งนี้ เมื่อระบบตรวจพบว่ารถอยู่ในสถานการณ์ขับขี่ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้แรงบิดทุกล้อ ระบบจะเปลี่ยนมาเป็นขับเคลื่อนรูปแบบ 2 ล้อโดยอัตโนมัติ เพื่อลดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง
อย่างไรก็ตาม ในกรณีฉุกเฉินที่รถต้องการการกระจายแรงขับไปยังล้อใดหนึ่ง เพื่อสร้างแรงยึดเกาะและรักษาเสถียรภาพการขับขี่ ระบบจะเปลี่ยนการขับขี่เป็นขับเคลื่อนในรูปแบบ 4 ล้อในทันที ซึ่งในระบบประมวลผลนั้นจะมีการนำข้อมูลที่ได้รับจากการขับขี่ ทั้งองศาของการหมุนพวงมาลัย จังหวะการกดคันเร่งของผู้ขับขี่ รวมถึงแรงบิดที่ส่งมายังล้อ มาประมวลผลทุก 10 มิลลิวินาที เพื่อหาความเป็นไปได้ที่ล้อใดล้อหนึ่งจะเสียการควบคุม ซึ่งถ้าหากระบบตรวจพบความเป็นไปได้ ระบบจะส่งกำลังลงไปยังเพลาขับในทันทีล่วงหน้าก่อนที่ล้อจะเสียการทรงตัวใน 0.5 วินาที นอกจากนั้นแล้ว ระบบ quattro with ultra Technology ยังเรียนรู้เพื่อปรับการทำงานให้สอดรับกับลักษณะและพฤติกรรมของผู้ขับขี่อีกด้วย โดยระบบ quattro with ultra Technology ใหม่นี้มีน้ำหนักเบากว่าระบบเดิม 4 กิโลกรัม
สำหรับ Audi Q5 รุ่นใหม่นี้มีมิติตัวถังรถที่มีขนาดใหญ่ และมีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบตัวถังแบบน้ำหนักเบา (lightweight construction) ผนวกกับโครงสร้างตัวถังแบบวัสดุผสม (multi-material) โดยใช้ชิ้นส่วนอลูมิเนียมเป็นชิ้นส่วนสำคัญ ทำให้มีน้ำหนักเบา ทว่ามีความแข็งแกร่ง ทนต่อแรงบิดงอมากยิ่งขึ้น โดยสามารถลดน้ำหนักตัวถังรถยนต์ลงได้ถึง 90 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นรถยนต์รุ่นที่มีน้ำหนักน้อยที่สุดในเซกเมนต์
นอกจากนั้นยังครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือชั้น ทั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ขณะลงทางลาดชัน (Audi Downhill Assist Function) เซ็นเซอร์หน้า-หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร พร้อมถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ขับสนุกทุกเส้นทางด้วยระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi Drive Select) ภายในหรูหราด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง สะดวกสบายทั้งผู้โดยสารและผู้ขับขี่ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบดีลักซ์ ระบบ Comfort Key ไฟหน้าแบบ LED ไฟ Daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
Q5 35 TDI quattro ได้รับการออกแบบให้ขุมพลังมาพร้อมระบบจ่ายน้ำมันแบบคอมมอนเรล ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 190 แรงม้า ล้อขนาด 8J x 19 พร้อมยางขนาด 235/55 R19 ส่วน Q5 45 TFSI quattro S line เครื่องยนต์เบนซินได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับระบบวาล์วแปรผัน (Audi Valvelift System) 252 แรงม้า
ภายนอกดีไซน์ให้โฉบเฉี่ยวหรูหรามากยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่งแบบ S line ล้อขนาด 8J x 20 พร้อมยาง ขนาด 255/45 R20 และยังเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen
Q5 45 TFSI quattro S line เครื่องยนต์เบนซิน มีให้เลือก 5 สี คือ ขาว เงิน เทา ดำ และน้ำเงิน
Q5 35 TDI quattro เครื่องยนต์ดีเซล มีให้เลือก 5 สี คือ ขาว เงิน เทา ดำ และน้ำเงิน
Q7 45 TDI quattro S line เครื่องยนต์ดีเซล มีให้เลือก 5 สี คือ ขาว เงิน เทา ดำ และน้ำเงิน
นายกฤษณะกร กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ลูกค้าในประเทศไทยเข้าถึงแบรนด์ ทางบริษัทฯ ยังเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมการขายและการตลาดเชิงรุก ด้วยการจัดกิจกรรมโรดโชว์ รวมถึงการจัดกิจกรรมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับเทคโนโลยี และสมรรถนะที่เหนือชั้นของแบรนด์ออดี้ โดยเปิดให้ลูกค้าทดลองขับรถยนต์ทุกรุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับที่นำไปสู่การตัดสินใจซื้อมาจากลูกค้ารายใหม่ๆ และกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบและเฝ้ารอแบรนด์ออดี้มานาน ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ในปีนี้
สำหรับแคมเปญการขายและการบริการหลังการขาย ออดี้ ประเทศไทย ได้มอบความมั่นใจให้กับลูกค้าสูงสุด ด้วยการรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี และภายในงาน Q Fascination ยังมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ Q7 40 TFSI quattro เครื่องยนต์เบนซิน และรถยนต์รุ่น A5 Coupe รับทันที ฟรีประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 3 ปี พร้อมผ่อนต่อเดือนเพียง 1% ของราคากับโปรแกรม Audi Choice และพิเศษสุดสำหรับเทศกาลวันแม่ ลูกค้าที่พาแม่มาจองรถยนต์สปอร์ตคูเป้ Audi TT ในเดือนสิงหาคม รับประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 1 ปี ทันที
สามารถสอบถามข้อเสนอพิเศษต่างๆ หรือทดลองขับได้ในงาน Q Fascination 19-20 สิงหาคมนี้ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี หรือในงาน Big Motor Sale 2017 ที่ไบเทคบางนา ระหว่างวันที่ 19-27 สิงหาคม หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม ถนนเพชรบุรี 02 023 4888 (ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์)