บริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัดเปิดตัวฮอนด้า แจ๊ซ เจเนอเรชั่นที่ 3 ตอบโจทน์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ยุค GEN ME

ฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถยนต์แฮทช์แบ็ก 5 ประตู เข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2546 โดยฮอนด้า แจ๊ซ ได้สร้างกระแสความนิยม และพลิกโฉมความต้องการใช้รถยนต์ของตลาดในประเทศด้วยดีไซน์แปลกใหม่ การขับขี่คล่องตัว มากด้วยประโยชน์ใช้สอย สำหรับฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 3 นี้ ฮอนด้าได้วิจัยและพัฒนาเพื่อให้มีความโดดเด่นทันสมัยเพิ่มมากขึ้นในทุกมิติ ทั้งนี้เพื่อให้ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอลได้เป็นอย่างดี

ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ เปิดตัวด้วยรูปแบบที่ดูสปอร์ต ภายนอกเป็นแบบ Crossfade Monoform สะท้อนถึงความปราดเปรียว ด้วยการออกแบบเส้นสาย Character Line ด้านข้างตัวรถที่คมชัด จึงเพิ่มความปราดเปรียวให้กับส่วนบน ในขณะที่ส่วนล่างยังให้ความแข็งแกร่ง มั่นคง นับเป็นการออกแบบที่ผสานกันได้อย่างลงตัว ไฟหน้ารูปทรงเพรียวบาง ที่ออกแบบอย่างกลมกลืนกับกระจังหน้า ช่วยเพิ่มมิติความกว้าง โฉบเฉี่ยว และสะดุดตา มาพร้อมสเกิร์ตข้างและสปอยเลอร์หลัง ส่วนไฟท้ายแบบแอลอีดีที่ออกแบบให้เชื่อมไปยังฝากระโปรงท้าย ยังช่วยเพิ่มความหรูหราและล้ำสมัยยิ่งขึ้น

ภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด Futuristic Cockpit ให้ความรู้สึกล้ำสมัย พร้อมจัดวางพื้นที่ภายในห้องโดยสารด้วยแนวคิด Man Maximum Machine Minimum ทำให้ความยาวของตัวถังรถและฐานล้อเพิ่มขึ้น ทำให้ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ และมีพื้นที่ตอนหลังที่กว้างขึ้น ซึ่งฐานล้อที่ยาวขึ้นนี้ยังช่วยให้การยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ห้องโดยสารที่มีความยาวเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถปรับพับเบาะแบบอัลตร้า ซีทได้หลากหลายรูปแบบ และมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ตอบสนองการใช้งานในทุกรูปแบบได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ มีความโดดเด่น 4 ด้านหลักๆ คือ

– การใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่น (Multi-Function) ด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส

ขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย รองรับการเชื่อมต่อภาพ และเสียงผ่าน HDMI รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri Eyes Free Mode (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) รองรับการเชื่อมต่อ HondaLink Application (เฉพาะ Smart Phone บางรุ่น) พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ให้การควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วด้วยสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย

– โครงสร้างตัวถังแบบ G-Force Control(G-CON) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ซึ่งมีอยู่ในฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ทุกรุ่น นอกจากนี้ ยังเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ

– เครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ การเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมี Eco Coaching ระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน รวมทั้งปุ่ม Econ Mode เป็นระบบที่ช่วย

ลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน และสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85

– เบาะนั่งอัลตร้า ซีทที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 4 โหมด ได้แก่ Utility Mode, Long Mode, Tall Mode และเพิ่มโหมดใหม่ล่าสุด Refresh Mode ที่สามารถพับเบาะด้านหน้าเชื่อมต่อเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด

ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ มีให้เลือก 6 รุ่น ได้แก่ รุ่น S MT ราคา 555,000 บาท, S AT ราคา 594,000 บาท, V ราคา 654,000 บาท, V+ ราคา 694,000บาท, SV ราคา 739,000 บาท และรุ่น SV+ ราคา 754,000 บาท โดยมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีขาวทาฟเฟต้า และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเหลืองแอทแทรค (มุก) สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) (สำหรับสีมุกเพิ่ม 6,000 บาท) ส่วนภายในห้องโดยสารทุกรุ่นเป็นสีดำ รุ่น S, V และ V+ เป็นเบาะผ้าสีดำ และรุ่น SV และ SV+ เป็นเบาะผ้าสีดำแบบสปอร์ต

นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมพิเศษ #MULTIFUNLIFE with All-new Honda Jazz เพื่อเชิญชวนประชาชนทั่วไปสร้างสรรค์คลิปวีดีโอภายใต้คอนเซ็ปต์ New Definition of Me ความยาวไม่เกิน 1 นาที โดยส่งคลิปวีดีโอเข้าร่วมประกวดได้ที่ www.honda.co.th/jazz ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน ศกนี้ โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ รุ่น SV มูลค่า 739,000 บาท จำนวน 1 คัน และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ติดตามความเคลื่อนไหว และรายละเอียดของกิจกรรมได้ที่ www.honda.co.th/jazz ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.honda.co.th/jazz

by YODEL