
 ฮอนด้า เอชอาร์-วี เปิดตัวเป็นครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2557 นับเป็นรุ่นที่เข้ามาเปิดตลาด และเติมเต็มความต้องการของตลาดรถยนต์ ‘คอมแพคท์เอสยูวี’ โดยเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าชาวไทย ด้วยภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างขวางเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดในตลาดเอสยูวี 3 ปีซ้อน และมียอดขายสะสมกว่า 66,000 คัน และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์กลุ่มคอมแพคท์เอสยูวีทางฮอนด้าจึงได้อัพเกรด ฮอนด้า เอชอาร์-วี ขึ้นอีกเพื่อให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม โดยตั้งเป้าการจำหน่ายไว้ที่ 18,000 คันภายใน 1 ปี
ฮอนด้า เอชอาร์-วี เปิดตัวเป็นครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2557 นับเป็นรุ่นที่เข้ามาเปิดตลาด และเติมเต็มความต้องการของตลาดรถยนต์ ‘คอมแพคท์เอสยูวี’ โดยเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าชาวไทย ด้วยภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างขวางเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดในตลาดเอสยูวี 3 ปีซ้อน และมียอดขายสะสมกว่า 66,000 คัน และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์กลุ่มคอมแพคท์เอสยูวีทางฮอนด้าจึงได้อัพเกรด ฮอนด้า เอชอาร์-วี ขึ้นอีกเพื่อให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม โดยตั้งเป้าการจำหน่ายไว้ที่ 18,000 คันภายใน 1 ปี
 ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ รุ่น RS ที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตรอบคัน 
กันชนหน้า-หลังสไตล์สปอร์ต กระจังหน้าดีไซน์ใหม่โครเมียมรมดำแบบสปอร์ต โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ต
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ รุ่น RS ที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตรอบคัน 
กันชนหน้า-หลังสไตล์สปอร์ต กระจังหน้าดีไซน์ใหม่โครเมียมรมดำแบบสปอร์ต โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ต
 มือจับเปิดประตูด้านหน้าแบบโครเมียมรมดำ กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต พร้อมแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้วแบบสปอร์ต และสัญลักษณ์ RS บนฝากระโปรงท้าย เพิ่มความสปอร์ตด้วยเบาะนั่งดีไซน์ใหม่
มือจับเปิดประตูด้านหน้าแบบโครเมียมรมดำ กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต พร้อมแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้วแบบสปอร์ต และสัญลักษณ์ RS บนฝากระโปรงท้าย เพิ่มความสปอร์ตด้วยเบาะนั่งดีไซน์ใหม่

พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ยกระดับไปอีกขั้นอาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, ระบบเตือนและช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ เป็นต้น

 ตอบโจทย์การใช้งานในทุกรูปแบบด้วยพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ภายในกว้างขวางสะดวกสบายในสไตล์รถอเนกประสงค์ ด้วยพื้นที่ใช้สอย และพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ มาพร้อมเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่สามารถปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode รองรับการขนย้ายสัมภาระได้หลากหลายรูปแบบ
ตอบโจทย์การใช้งานในทุกรูปแบบด้วยพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ภายในกว้างขวางสะดวกสบายในสไตล์รถอเนกประสงค์ ด้วยพื้นที่ใช้สอย และพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ มาพร้อมเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่สามารถปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode รองรับการขนย้ายสัมภาระได้หลากหลายรูปแบบ
 ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ รุ่น RS มากับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้อัตราการประหยัดน้ำมันและตอบสนองทุกการขับขี่อย่างดีเยี่ยม ทำให้ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ รุ่น RS เป็นรถยนต์ที่ขับสนุกในทุกเส้นทาง แถมยังประหยัดค่าน้ำมันอีกด้วย และยังเติมน้ำมัน E85 ได้
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ รุ่น RS มากับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที มาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้อัตราการประหยัดน้ำมันและตอบสนองทุกการขับขี่อย่างดีเยี่ยม ทำให้ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ รุ่น RS เป็นรถยนต์ที่ขับสนุกในทุกเส้นทาง แถมยังประหยัดค่าน้ำมันอีกด้วย และยังเติมน้ำมัน E85 ได้
 อัดแน่นความปลอดภัยระดับพรีเมียมในทุกรุ่นเช่น ระบบเบรกมือไฟฟ้า, ระบบ Auto Brake Hold, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง, ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน, สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน, กล้องส่องภาพด้านหลัง ที่ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ และระบบถุงลม 6 ตำแหน่งเฉพาะในรุ่น RS และ EL
อัดแน่นความปลอดภัยระดับพรีเมียมในทุกรุ่นเช่น ระบบเบรกมือไฟฟ้า, ระบบ Auto Brake Hold, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง, ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน, สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน, กล้องส่องภาพด้านหลัง ที่ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ และระบบถุงลม 6 ตำแหน่งเฉพาะในรุ่น RS และ EL
ด้วยภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียม ความกว้างขวาง และประโยชน์ใช้สอยภายในห้องโดยสาร ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกรูปแบบ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ จึงถูกนำเสนอผ่านการสื่อสารทางการตลาดด้วยคอนเซปท์ What’s Calling You? ทุกเสียงเรียกจากข้างใน…ตามไปให้สุด ซึ่งสะท้อนชีวิตอินไซต์ของคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ที่ต้องการออกไปใช้ชีวิตตามที่หัวใจเรียกร้อง

ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ มีทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่
- รุ่น E ราคา 949,000 บาท
- รุ่น EL ราคา 1,059,000 บาท
- รุ่น RS ราคา 1,119,000 บาท
มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี โดยมีสีใหม่ คือ สีแดงแพสชั่น (มุก) และอีก 4 สี ได้แก่ สีขาวออร์คิด (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทารูสแบล็ค (เมทัลลิก) พบกับ ฮอนด้า เอชอาร์- วี ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม เป็นต้นไป
 สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และจองรถได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ และยังสามารถสัมผัสกับ ฮอนด้า เอชอาร์- วี ใหม่ ได้ก่อนใคร ที่งาน ฟาสต์ ออโต้ โชว์ ไทยแลนด์ 2018 ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม นี้ ณ บูธ A04 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ฮอลล์ 106 และที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตซาลอน 2018 ระหว่างวันที่ 4-8 กรกฎาคม นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และจองรถได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ และยังสามารถสัมผัสกับ ฮอนด้า เอชอาร์- วี ใหม่ ได้ก่อนใคร ที่งาน ฟาสต์ ออโต้ โชว์ ไทยแลนด์ 2018 ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม นี้ ณ บูธ A04 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ฮอลล์ 106 และที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตซาลอน 2018 ระหว่างวันที่ 4-8 กรกฎาคม นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี


 
                








 
            		     
            		     
            		     
            		    


 
		        

