Audi Q8 55 TFSI quattro S line สืบทอดตำนาน Audi quattro แชมป์ WRC ยุค80
Sep 16, 2018

Audi เริ่มต้นนำระบบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เข้ามาใช้กับรถยนต์ที่เป็นโปรดักชั่น คาร์ เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1980 ในชื่อว่า Ur quattro (อูร์-ควอตโทร) หรือ Audi quattro ความโดดเด่นของระบบนี้ทำให้ Audi ประสบความสำเร็จจากการแข่งขัน WRC (World Rally Championship) โดยสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในปี 1982 และ 1984

แรงบันดาลใจจาก Ur quattro ยังคงส่งผลต่อเนื่องมายังผลิตภัณฑ์ของ Audi รวมถึง Audi Q8 ที่เผยโฉมสู่สายตาชาวโลกด้วยบรรทัดฐานใหม่ของยนตรกรรมที่ผสมผสานคุณลักษณะที่โดดเด่นของรถเอสยูวีขนาดใหญ่ และรถยนต์ 4 ประตู คูเป้ ที่มีดีไซน์หรูหรา เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เป็นบทพิสูจน์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อันเลื่องชื่อของ Audi ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Audi Q8 เป็นรถที่ผ่านการออกแบบโดยสะท้อนแนวคิดใหม่ของ Audi (design language) ซึ่งเริ่มใช้เป็นครั้งแรกในรุ่น A8 โดยออกแบบให้รถมีรูปทรงที่ดูแข็งแกร่งตามแบบฉบับของ เอสยูวี กระจังหน้าขนาดใหญ่ รูปทรง 8 เหลี่ยม ส่งให้รถดูมีพลัง เสริมความหรูหราด้วยเส้นขอบโครเมียมแนวตั้ง 6 เส้น ตัดด้วยเส้นแนวนอนสีเทาเข้ม รับกับกันชนหน้าที่มีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ เพิ่มความดุดันน่าเกรงขาม

ความโดดเด่นสะดุดตาของ Audi Q8 คือมีไฟหน้าแบบ HD Matrix LED พร้อมไฟ daytime running ดูโฉบเฉี่ยว และมีเอกลักษณ์จากการออกแบบในลักษณะเส้นแนวตั้ง เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนยามค่ำคืน และลดการรบกวนเพื่อนรวมทางจากระบบ Matrix ที่ไฟ LED แต่ละดวงทำงานเป็นอิสระลดการส่องแสงรบกวนรถคันอื่น แต่ยังให้ความสว่างในพื้นที่รอบๆ ช่วยให้มองเห็นทางได้กว้าง และไกลเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

Audi Q8 ยังมาพร้อมกับไฟเลี้ยวแบบไดนามิกทั้งด้านหน้า และด้านหลัง นอกจากนี้เมื่อมีการล็อกหรือปลดล็อกรถไฟทั้งด้านหน้า และด้านหลังจะติดสว่างในรูปแบบไฟแอนนิเมชัน หรือเรียกว่า Light staging นวัตกรรมแห่งการออกแบบอัลกอริทึม (algorithm) การควบคุมการส่องสว่างรูปแบบใหม่

เส้นสายเหลี่ยมมุมต่างๆ ออกแบบได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเส้นแนวหลังคาที่ลาดลงตามแบบฉบับของรถคูเป้ ให้อารมณ์สปอร์ต และเส้นสายรอบตัวรถที่เป็นไปตามหลักการอากาศพลศาสตร์ ให้ความรู็สึกเหมือนพร้อมที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้า เติมเต็มด้วยหลังคาพาโนรามิคที่เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ขณะที่ตัวถังด้านข้าง นอกจากรูปทรงที่โดดเด่นสวยงาม ยังเพิ่มเติมสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด ด้วยการดึงอารมณ์ของรถคูเป้มาใช้กับกระจกหน้าต่างแบบไร้ขอบ ให้ความรู้สึกหรูหราและสปอร์ตยิ่งขึ้น

Audi Q8 โดดเด่นท้าทายทุกสายตาด้วยซุ้มล้อขนาดใหญ่ที่มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว หนึ่งในอัตลักษณ์ของ quattro DNA จาก Audi  ที่จะทำให้ทุกการเดินทางเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ของรถยนต์ เอสยูวี ขนาดใหญ่ได้อย่างแท้จริง ด้านท้ายสวยงามลงตัว กับการออกแบบไฟท้ายแบบแนวนอน พร้อมไฟ LED ที่เชื่อมต่อกันต่อเนื่องระหว่างด้านซ้าย และด้านขวา ทำให้ท้ายรถดูแตกต่างมีเอกลักษณ์ที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล นอกจากนี้แถบสีดำเชื่อมต่อไฟท้ายซ้าย-ขวา ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Audi Ur quattro

การออกแบบตัวถังไม่เพียงแต่เน้นให้มีความสวยงาม หรูหราเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญในด้านวิศวกรรมด้วยการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมในรูปแบบของ multi-material construction โดยอลูมิเนียมและเหล็กชนิดต่างๆ จะถูกเลือกใช้ในชิ้นส่วนและตำแหน่งที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมของการใช้งาน

Audi Q8 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานทั้งนอกเมือง และในเมือง หนึ่งในเป้าหมายคือความนุ่มนวลซึ่ง Q8 ใช้ช่วงล่างระบบถุงลมแบบสปอร์ต สามารถปรับระดับความสูงของตัวถังได้สูงสุดถึง 90 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับสภาพการขับขี่ในแต่ละสถานการณ์ ทำให้ทุกการเดินทางเต็มเปี่ยมไปด้วยความนุ่มนวลที่แฝงไว้ด้วยอารมณ์สปอร์ต


ภายในห้องโดยสาร Audi Q8 ถูกออกแบบให้มีความสะดวกสบาย แต่มีความสปอร์ต ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบการเดินทางท่องเที่ยว เมื่อเปิดประตู Audi Q8 เราจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความเป็นสปอร์ต เอสยูวี กับเบาะนั่งคู่หน้าแบบ S Sports หุ้มหนัง Valcona คุณภาพสูง ตัดเย็บ และตกแต่งแบบไดมอนด์คัท พร้อมสัญลักษณ์ S line หนึ่งเดียวในเซ็กเมนต์ที่เหนือกว่า

ภายในของ Audi Q8 เป็นการออกแบบตามแบบแนวคิดใหม่ (design language) จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ภายในห้องควบคุมของนักบิน

การออกแบบคอนโซลกลางแบบหรูหรา ทันสมัย โดยลดปุ่มสวิทช์ควบคุมให้น้อยที่สุด แทนที่ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 2 จอ

ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 4 โซน พร้อมม่านบังแดดด้านข้างประตูสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า Audi Q8 ยังเพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทางด้วยเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ ประกอบด้วยลำโพงคุณภาพสูง 17 ตำแหน่ง ให้กำลังขับรวม 730 วัตต์ สร้างความประทับใจในทุกมิติเสมือนนั่งอยู่ในคอนเสิร์ต ฮอลล์

ถึงแม้ว่า Q8 จะมีแนวเส้นหลังคาที่ลาดลงตามแบบฉบับของรถยนต์แบบคูเป้ แต่ยังคงมีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ โดยมีพื้นที่มากถึง 605 ลิตร พร้อมแผ่นปิดสัมภาระแบบไฟฟ้า และยังสามารถขยายพื้นที่ได้เพิ่มเติมอีกเมื่อพับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง ซึ่งจะทำให้พื้นที่ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 1,755 ลิตร รองรับสำหรับทุกกิจกรรมที่ท้าทาย

Audi Q8 ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดสมรรถนะสูง ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ผสานเทคโนโลยี ไมล์ด ไฮบริด ซึ่งเปลี่ยนมาใช้ระบบกระแสไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ เทคโนโลยีไมล์ด ไฮบริด ยังทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนในลักษณะลอยตัว (coasting phase) ได้ยาวนานมากขึ้น และยังช่วยเสริมการทำงานของระบบ start-stop ให้มีความราบรื่นยิ่งขึ้นจนผู้ขับขี่แทบไม่รู้สึกถึงการติด-ดับของเครื่องยนต์

และแน่นอนยังเพิ่มความมั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมาเป็นระยะเวลากว่า 38 ปี โดยระบบขับเคลื่อนของ Audi Q8 จะกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและหลังในรูปแบบ 40:60 แต่สามารถปรับการกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้า-หลังได้อย่างอิสระสอดคล้องกับสภาพการขับขี่ในช่วงเวลานั้นๆ ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการควบคุมรถยนต์ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเส้นทางโค้ง หรือการขับขี่บนถนนที่เปียกลื่น เสริมสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตามปรัชญาที่ตั้งไว้ว่า ‘พละกำลังจะไร้ค่าโดยสิ้นเชิงหากขาดการควบคุม’

ในโอกาสฉลองเปิดสำนักงานใหญ่-โชว์รูม และศูนย์บริการแห่งใหม่ Audi Centre Thailand และภายใต้การสนับสนุนของ Audi AG ที่เห็นศักยภาพของประเทศไทย อาวดี้ประเทศไทยได้จัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้ตลาด ด้วยการชิงเปิดตัว Audi Q8 เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรุ่นที่นำเข้ามาคือ Audi Q8 55 TFSI quattro S line โดยมีราคาจำหน่าย 6,799,000 บาท

yodel

yodel
โยเดลผู้มาจากดาวอังคาร เราคือผู้ชื่นชอบเรื่องรถยนต์ ท่องเที่ยว กินดื่ม แต่ก็ยังรักการปั่นจักรยานเพราะสามารถพาไปท่องเที่ยว กินดื่มได้เหมือนกัน...วันว่างยังชอบดูหนัง ฟังเพลง และที่ขาดไม่ได้คือวาดภาพ และประกอบแบบจำลอง... IG: instagram.com/yodel FB: facebook.com/yomodels

Subscribe me