
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ UNEX EV ส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ให้ก้าวล้ำอีกขั้น หลังเผยแผนส่งรถยนต์ไฟฟ้าเอ็มจีที่รองรับแพลตฟอร์มขับเคลื่อนอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีการสลับแบตเตอรี่ที่ใช้เวลาเพียง 3 นาที โลดแล่นบนถนนเมืองไทยปลายเดือนเมษายนนี้ หวังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานรถไฟฟ้าให้สอดรับต่อการใช้งานเชิงพาณิชย์
เทคโนโลยีการสลับแบตเตอรี่ (Battery Swapping Technology) เป็นอีกหนึ่งแนวทางการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้า สู่การขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าและทำให้เกิดการใช้พลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้นในกลุ่มธุรกิจ และอุตสาหกรรม ซึ่งเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่จะใช้เวลาสลับแบตเตอรี่ที่สถานีเพียง 3 นาทีเท่านั้น ขณะที่ระยะทางการขับขี่ยังคงเท่าเดิม โดย NEW MG EP PLUS วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 380 กิโลเมตร และ NEW MG MAXUS 7 วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 570 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC อีกทั้งเทคโนโลยีการสลับแบตเตอรี่ยังช่วยเพิ่มความสะดวก ในการใช้งาน ลดเวลาในการจอดชาร์จ
สุโรจน์ แสงสนิท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด กล่าวว่า แผนพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่รองรับแพลตฟอร์มขับเคลื่อนอัจฉริยะ เป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับ UNEX EV โดยมีเป้าหมายเดียวกันในการผลักดันประเทศไทย เข้าสู่ระบบขนส่งพลังงานสะอาดด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานเชิงพาณิชย์ จึงได้เริ่มต้นพัฒนาเทคโนโลยีการสลับแบตเตอรี่ในรุ่น NEW MG EP PLUS เป็นรุ่นแรก
เนื่องจาก NEW MG EP PLUS เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมนำมาใช้ในภาคการขนส่ง ซึ่งปัจจุบันถูกใช้เป็นรถรับ-ส่งสาธารณะแล้วกว่า 1,000 คัน ด้วยจุดเด่นในเรื่องความสะดวกสบายของห้องโดยสารตามแบบฉบับของรถสไตล์ STATION WAGON และอีกรุ่นที่อยู่ระหว่างการพัฒนากับ NEW MG MAXUS 7 รถ e-MPV แบบ 7 ที่นั่ง โดยรถยนต์ไฟฟ้า เอ็มจี ที่มีเทคโนโลยีการสลับแบตเตอรี่จะเริ่มให้บริการในช่วงปลายเดือนเมษายน 2568 และปักหมุดเริ่มที่ภูเก็ตเป็นจังหวัดแรก