ถ้าพูดถึงรถยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองที่สุดของมิตซูบิชิคงหนีไม่พ้นมิตซูบิชิ แอททราจ และมิตซูบิชิ มิราจ ซึ่งล่าสุดรถทั้ง 2 รุ่นก็กลับมากับโฉมใหม่ ที่ดูเท่ห์ สปอร์ต มากยิ่งขึ้น และครั้งนี้ผมได้เอาเจ้ามิตซูบิชิ มิราจ มาลองใช้งานดู บอกได้เลยว่ามันคล่องตัวมากๆ แถมยังโดดเด่นด้วยรูปโฉมใหม่ที่ดูโฉบเฉี่ยวตามคอนเซ็ป Advanced ‘Dynamic Shield’ อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ
ภายนอกดีไซน์ใหม่ ดูเท่ห์ ซิ่งขึ้นมาก สิ่งที่ทำให้รู้สึกต่างจากรุ่นก่อนหน้าก็อย่างกระโปรงหน้าที่ออกแบบใหม่ กระจังหน้าแต่งซิ่งด้วยเส้นสีแดงรับเข้ากับไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ โดดเด่นด้วยแถบโครเมี่ยม ที่ไหลจากไฟหน้าลงมาเข้ากับกันชนหน้าแบบใหม่ที่มากับชุดไฟตัดหมอกแบบใหม่ให้ความรู้สึกทันสมัย โฉบเฉี่ยวกว่าเดิมด้วยสปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ต ไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว
ดูจากรูปร่างหน้าตาภายนอกอาจจะดูเล็กๆ น่ารัก แต่พอลองเข้ามานั่งภายห้องโดยสารบอกได้เลยว่าไม่เล็กนะครับ ด้วยความสูงของผมอยู่ 180 เซนติเมตร เมื่อเข้าไปนั่งแล้วหัวยังไม่ติดเพดาน เมื่อเลื่อนเบาะให้พอดีกับท่านั่ง ที่นั่งด้านหลังก็ยังเหลือที่มากพอให้โดยสารได้อยู่ และอีกอย่างที่ชอบมากคือในตำแหน่งคนขับจะมีที่เท้าแขนพับขึ้นลงและปรับระดับความชันได้ติดตั้งมาให้ด้วยทำให้รู้สึกสบายตอนที่ขับรถนานๆ
เพิ่มความสปอร์ตด้วยลายคาร์บอนบริเวณที่เท้าแขน แต่แฝงความกิ๊บเก๋ที่เบาะนั่งวัสดุหนังสังเคราะห์และผ้าด้วยลวดลายที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ สิ่งที่มิตซูบิชิใส่มาให้ในรถ มิราจ คือจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้วแบบ High Contrast ที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอแบบสัมผัส Smartphone – Link Display Audio (SDA) ที่รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และการเชื่อมต่อบลูทูธ นอกจากนั้นจอนี้ยังแสดงผลเป็นภาพด้านหลังตอนถอยรถอีกด้วย
หลังจากได้ลองขับแล้วบอกได้เลยว่า มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ เป็นรถที่ขับสนุกอัตราเร่งดีเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ที่นอกจากขับสนุกแล้วยังมาคู่กับความประหยัดอีกด้วย
อีกสิ่งที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้คือวงเลี้ยวที่แคบมาก สะดวกมากเวลาขับขึ้นลานจอดรถที่ค่อนข้างแคบ ในส่วนของช่วงล่างก็ไม่ธรรมดาเพราะเซ็ทออกมาได้ดีไม่นุ่มจนย้วย แต่ก็ไม่แข็งกระด้าง แต่ถ้าเติมลมยางมาเต็มๆ แต่ขับคนเดียวก็ได้ฟิลล์รถโกคาร์ทอยู่ไม่น้อย
สิ่งดีงามที่ติดมากับรถ มิตซูบิชิ มิราจ คือระบบล็อกความเร็ว cruise control ที่สามารถสั่งงานได้ที่ปุ่มบนพวงมาลัยลดความเมื่อยล้าตอนขับขี่ได้เป็นอย่างดี แอร์ปรับอัตโนมัติตามอุณหภูมิที่เราตั้งไ้ว้ กุญแจที่ให้มาเป็นแบบ KOS แค่พกกุญแจไว้กับตัวเปิดปิดรถเราแค่กดปุ่มที่ประตูได้เลย
ช่วงการขับรถในเมืองที่การจารจรค่อนข้างติดขัด มิตซูบิชิ มิราจ ก็มีระบบ Auto Stop & Go ที่จะเริ่มการทำงานตั้งแต่เราสตาร์ทรถระบบนี้มันจะหยุดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อรถติดนานๆ ทำให้เราประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น แต่หลายคนอาจจะรำคาญเราก็สามารถปิดการทำงาน Auto Stop & Go ได้ที่ปุ่ม ด้านหน้าที่วางแก้วน้ำปุ่มจะอยู่ข้างๆ ช่องเสียบ USB
มิตซูบิชิ มิราจ แม้จะเป็นรถขนาดเล็กที่ดูภายนอกเหมือนจะขนของย้ายบ้านไม่ได้ แต่อย่าเพิ่งคิดอย่างงั้น เพราะเจ้า มิราจ ได้ถูกออกแบบการใช้งานพื้นที่ห้องโดยสารมาเป็นอย่างดี หากเราต้องการขนของใหญ่ ก็สามารถพับพนักพิงด้านหลังลงได้แบบแยกเป็น 60:40 เมื่อเปิดพื้นตรงที่วางสัมภาระขึ้นก็จะเจอกับถาดเก็บของที่ออกแบบมาอย่างลงตัวทำให้เราสามารถเก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น
เมื่อเปิดถาดใส่ของก็จะเจอกับที่วางยางอะไหล่ซึ่งปัจจุบันก็ไม่มียางอะไหล่มาให้แล้ว แต่จะเป็นชุดปะยางฉุกเฉินพร้อมที่ปั๊มลมมาให้แทน สะดวกปลอดภัยขึ้นเยอะตัดปัญหาความยุ่งยากในการเปลี่ยนยางด้วยตัวเอง เพราะการเปลี่ยนยางมันไม่ใช่เรื่องง่ายของใครหลายๆ คน
มิตซูบิชิ ไม่เคยขี้เหนียวเรื่องความปลอดภัย แม้ในรถยนต์ขนาดเล็ก อย่าง มิตซูบิชิ มิราจ ก็ยังอัดแน่นระบบความปลอดภัยมาให้อย่างครบครันทั้งระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชลอความเร็ว (FCM-LS) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วเฉพาะด้านหน้า (RMS-Forward) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) และระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL)
มิตซูบิชิ มิราจ อัดแน่นด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ไม่จำเป็นอย่าได้เห็นเลยเจ้าถุงลมรู้ว่ามีแต่ไม่ต้องใช้ก็ได้ ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) ซึ่งทำงานประสานกันทำให้เรามั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญไฟจะฉุกเฉินจะกะพริบอัตโนมัติตอนที่เบรกกะทันหัน (ESS) อีกด้วย
ส่วนคันนี้ที่เห็นก็เป็นมิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รุ่น GLS – LTD CVT มาในราคา 619,000 บาทซึ่งถือว่าคุ้มมากกับสิ่งที่อัดแน่นมาในรถ ยังไงอยากให้ไปลองขับกันดู ติดต่อทดลองขับได้ที่นี้ https://bit.ly/2YyZqir