บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมพร้อมรองรับแผนการดำเนินธุรกิจ และการขยายตัวของปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในอนาคต ขยายพื้นที่ ส่วนบริการลูกค้า บนถนนบางนา-ตราด กม.19 ด้วยพื้นที่รวมกว่า 45,000 ตารางเมตร พร้อม ทุ่มงบ 500 ล้านบาท เพื่อเปิดตัว ‘คลังอะไหล่แห่งใหม่’ ที่สามารถวิเคราะห์ และจัดเก็บอะไหล่ พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ‘I4AP – ไอโฟร์เอพี’ (Innovation of Asia Pacific) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็วในการจัดการ รวมถึงการกระจายอะไหล่ไปยังดีลเลอร์ทั้ง 32 แห่ง เพื่อเป้าหมายในการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าทั่วประเทศ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ดำเนินงานโดยให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นอันดับแรก จึงมุ่งให้บริการที่ดีเลิศเพื่อนำไปสู่ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า จากสถิติ เมอร์เซเดส-เบนซ์ สามารถครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งติดต่อกันถึง 18 ปีในตลาดรถหรู จึงเป็นเสมือนสิ่งยืนยันความไว้วางใจจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ และจำนวนของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตจึงมีการวางแผนยกระดับบริการหลังการขาย โดยเฉพาะในด้านการบำรุงรักษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษารถยนต์ของลูกค้าให้มากขึ้น
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายพื้นที่ส่วนบริการลูกค้า บนถนนบางนา-ตราด กม. 19 เพิ่มขึ้นเป็น 45,000 ตารางเมตร พร้อมทุ่มงบ 500 ล้านบาท เปิดตัว ‘คลังอะไหล่แห่งใหม่’ ขนาดพื้นที่ 13,000 ตารางเมตร โดยคลังอะไหล่แห่งนี้มีศักยภาพในการขยายพื้นที่จัดเก็บอะไหล่ออกไปได้อีกรวมเป็น 15,000 ตารางเมตร อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้จัดสรรพื้นที่เดิมอีกกว่า 30,000 ตารางเมตร เพื่อใช้สร้างเป็นศูนย์ฝึกอบรม และพัฒนาช่างเทคนิคแห่งใหม่
พื้นที่แถบถนนบางนา-ตราด เป็นทำเลจุดยุทธศาสตร์ในด้านโลจิสติกส์ทั้งการขนส่งทางเรือ รถ และเครื่องบิน ทำให้สามารถกระจายอะไหล่ให้กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว โดย คลังอะไหล่แห่งใหม่นี้ มีหน้าที่วิเคราะห์ และจัดเก็บอะไหล่ที่ใช้ในการบำรุงรักษา และ การซ่อมแซมทั่วไปสำหรับรถยนต์ทุกแบรนด์ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) นำเสนอแก่ลูกค้า ทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เมอร์เซเดส-มายบัค และอีคิว
คลังอะไหล่แห่งใหม่นี้ได้รับการออกแบบ และก่อสร้างตามมาตรฐานคลังอะไหล่ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั่วโลก พร้อมรองรับการติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ‘I4AP’ (Innovation of Asia Pacific) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็วในการจัดการอะไหล่ และรองรับ การบริหารจัดการอะไหล่คงคลังของผู้จำหน่าย (Dealer Inventory Management System: DIMS) รวมถึงการเพิ่มพื้นที่ในการบริหารสินค้าขาออก (Outbound logistics) ที่ใช้จัดส่งสินค้าไปยังผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดส่งอะไหล่ ให้ได้มากถึง 2,000 ไลน์ต่อวัน
ขั้นตอนการดำเนินงานที่คลังอะไหล่จะเริ่มต้นจาก พื้นที่สินค้าขาเข้า (Inbound logistics) เพื่อใช้รับอะไหล่รถยนต์ที่ส่งตรงมาจากประเทศเยอรมนี และสิงคโปร์ เพื่อนำมาจัดเก็บในคลังสำรองอะไหล่ให้เพียงพอต่อความต้องการของดีลเลอร์ทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อมีการสั่งซื้ออะไหล่มาจาก ดีลเลอร์ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเพื่อนำสินค้ามายังพื้นที่สินค้าขาออก (Outbound logistics) และเตรียมพร้อมจัดส่งอะไหล่ให้ดีลเลอร์ทั้ง 17 แห่งที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ภายในวันเดียวกัน และจัดส่งถึงดีลเลอร์อีก 15 แห่งที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัดภายในวันรุ่งขึ้น
การบริหารคลังอะไหล่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ โดยเป็นการผสมผสานระหว่างการแบ่งตามปริมาณการซื้อ เพื่อแยกประเภทเป็นอะไหล่หมุนเวียนเร็ว (Fast Moving) อะไหล่หมุนเวียนปานกลาง (Medium Moving) และอะไหล่หมุนเวียนช้า (Slow Moving) กับการแบ่งประเภทและขนาดของอะไหล่ เพื่อเข้าจัดเก็บใน 6 โซนหลัก
6 โซนหลักที่ว่าได้แก่ 1.โซนอะไหล่ ขนาดเล็กและกลาง 2.โซนอะไหล่ขนาดใหญ่และหนัก 3.โซนอะไหล่พิเศษ เช่น แบตเตอรี่ไฮบริด 4.โซนสารเคมี เพื่อจัดเก็บสารเคมีอันตราย 5.โซนควบคุมอุณหภูมิ 6.โซนกุญแจ ซึ่งบริษัทฯ ได้เพิ่มระบบความปลอดภัยในคลังอะไหล่ เพื่อการป้องกันที่รัดกุมยิ่งขึ้น โดยมีการสร้าง และออกแบบห้องพิเศษเพื่อใช้ในการจัดเก็บอะไหล่ ที่สามารถป้องกันเหตุฉุกเฉิน และจำกัดบริเวณความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
นอกจากการขยายพื้นที่ และเพิ่มประสิทธิภาพในด้านเทคโนโลยีแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในด้านการพัฒนาทักษะบุคลากรโดยเราได้เชิญทีมเจ้าหน้าที่จากเดมเลอร์ เอจี มาทำการฝึกอบรมพนักงาน เพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และเรียนรู้ระบบการจัดเก็บอะไหล่ได้ อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าอีกด้วย