บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมต้านภัยโควิด-19 โดยการชวนผู้ใช้เมอร์เซเดส-เบนซ์ โพสต์ภาพถ่ายกับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ของคุณ พร้อมเปิดไฟหน้ารถ และเขียนข้อความให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ และใส่ #ShineForTomorrow #MercedesForTomorrow #MercedesBenzThailand เพื่อเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ในการให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน ก่อนโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็นทางเฟซบุ๊ค หรือ อินสตาแกรม ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 พฤษภาคม 2563 ทุก ๆ โพสต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จะร่วมสมทบเงินบริจาค 500 บาท โดยเมื่อจบโครงการ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ตั้งเป้ารวบรวมเงินบริจาคและสมทบเข้าโครงการเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,000,000 บาท เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยัง 4 โรงพยาบาลที่เป็นศูนย์กลางการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และสถาบันบำราศนราดูร เพื่อใช้สำหรับค้นคว้าและวิจัยวัคซีนในอนาคต มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ติดตามสถานการณ์ของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง และทำให้เราตระหนักว่า บุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มบุคคลที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อจะไม่ได้เพิ่มมากขึ้นมากแล้ว เนื่องด้วยภาครัฐมีนโยบายป้องกันโควิด-19 ที่เข้มข้น ทั้งการปิดทำการสถานที่เสี่ยง และการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประชาชนในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทว่าสถานการณ์ปัจจุบันยังเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังต่อไป เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์ใน 4 โรงพยาบาลหลักที่เป็นศูนย์กลางการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คนไทยได้ฝ่าวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ได้สำเร็จร่วมกัน” และด้วยตระหนักในความไม่สะดวกของลูกค้าในการนำรถยนต์เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงออก 2 มาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าไปพร้อมกัน ดังนี้ หากรถยนต์ของท่านสิ้นสุดระยะการประกันคุณภาพ หรือสิ้นสุดระยะแพ็คเกจเมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์วิส […]
มินิ ประเทศไทย เปิดตัว มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ จีพี เจเนอเรชั่นที่ 3 มินิที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ สานต่อตำนานรถแข่งที่ขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจจากจอห์น คูเปอร์ นักออกแบบรถแข่งฟอร์มูลา วัน โดยมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ จีพี ใหม่ จะมาในจำนวนจำกัดเพียง 30 คันเท่านั้น มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ จีพี ใหม่ มากับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo เจเนอเรชั่นล่าสุดให้กำลังสูงสุด 225 กิโลวัตต์/306 แรงม้า ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.ได้ภายใน 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 265 กม./ชม. หัวใจสำคัญของเครื่องยนต์สมรรถนะสูงคือระบบควบคุมอุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งระบบระบายความร้อนของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ […]
ชไมพรปภัสร์พงษ์ และสุกานดาปภัสร์พงษ์ ทีมผู้บริหาร บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน “มหกรรมยานยนต์” หรือ Thailand International Motor Expo และผู้ผลิตนิตยสาร “ฟอร์มูลา” 4 WHEELS และโลกรถยนต์ เผยว่า บริษัทฯ ตระหนักดีถึงความรู้สึกทุกข์กังวลของผู้ป่วย COVID-19 จึงอยากเป็นกำลังใจ ด้วยการมอบนิตยสารในเครือฯ แก่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ให้ผู้ป่วยได้อ่านเพื่อคลายความเครียด พร้อมรับสาระบันเทิง ด้านยานยนต์ ระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ผู้ต้องการร่วมเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วย COVID-19 สามารถส่งหนังสือ หรือนิตยสาร ทางไปรษณีย์ไปที่ ห้องสมุดสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ชั้น 2 อาคารศูนย์การเรียนรู้และวิจัยเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ 111 หมู่ 14 ถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540 สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2839-5080
ลวดลายสุดวิจิตรของพญานาคที่โดดเด่นสะดุจตาด้วยลายทีแปรงพู่กันอันพลิ้วไหวแบบลายไทยร่วมสมัยบน BMW X5 โดย TRK (คุณธีระยุทธ พืชเพ็ญ) ศิลปินสตรีทอาร์ทที่มีชื่อเรื่องการใช้พู่กันที่มีสไตล์การวาดลายไทยอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อันมีจุดมุ่งหมายในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปสู่เวทีโลก ผลงานของ TRK เป็นผลงานที่ทำเพื่อระลึกถึง BMW Art Car #07 ของ ไมเคิล จากามารา เนลสัน (Michael Jagamara Nelson) ศิลปินพื้นเมืองของออสเตรเลียที่นำศิลปะพื้นเมืองของชาวอะบิริจิน มาวาดเป็นลวดลายภูมิประเทศและสัตว์ของประเทศออสเตรเลีย โดยการออกแบบลวดลายของ TRK ลงบน BMW X5 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและลาว โดยจุดเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองประเทศคือ “ความเชื่อ” โดยไทยและลาวมีแม่น้ำโขงที่เป็นจุดเชื่อมโยงกัน สังเกตุได้ว่า TRK วาดพญานาคทั้ง 2 ด้านของตัวรถมีลักษณะแตกต่างกันซึ่งจะเป็นตัวแทนของพญานาคทั้งฝั่งไทย และฝั่งลาว เมื่อไล่ดูในรายละเอียดพญานาคฝั่งด้านขวาของรถจะมีการปล่อยลูกไฟออกมาด้วย จุดเชื่อมโยงของลวดลายรอบตัวรถคือความศรัทธาที่ทั้งไทย – ลาว มีความเชื่อความศรัทธาร่วมกันโดย TRK ได้ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพของพระธาตุบนฝากระโปรงหน้า ภาพลายเส้นที่ TRK สร้างสรรค์ลงบนตัวรถ BMW X5 ยิ่งทรงเสริมให้รถคันนี้ดูทรงพลัง และโดดเด่นทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้นอีกด้วย ศิลปิน TRK เป็นศิลปินที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการใช้เส้นสายลวดลายแบบไทยมานำเสนอในรูปแบบที่ดูร่วมสมัย […]
ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี ได้มีการปรับไลน์การผลิตรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์ของโรงงานในเมืองซานตากาตา โบโลญเญเซ เป็นการผลิตหน้ากากอนามัยสำหรับใช้ทางการแพทย์ เพื่อนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล Sant’Orsola-Malpighi ในเมืองโบโลญญ่า ต่อสู้กับการระบาดของไวรัส COVID-19 สำหรับการผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อทางการแพทย์ถูกผลิตขึ้นโดยพนักงานแผนกตัดเย็บที่ผลิตชิ้นส่วนภายในและดูแลงานคัสตอมของรถซูเปอร์สปอร์ตคาร์ลัมโบร์กินีโดยเฉพาะ ซึ่งจะสามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้ 1,000 ชิ้นต่อวัน และผลิตเฟซชิลด์จำนวน 200 ชิ้นต่อวัน ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติสำหรับการผลิตชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ โดยการทำประโยชน์เพื่อสังคมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานปกครองแห่งแคว้นเอมิเลีย-โรมัญญา และมหาวิทยาลัยของเมืองโบโลญญา ซึ่งได้มีการตรวจสอบคุณภาพของหน้ากากจากภาควิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์และศัลยศาสตร์ ก่อนทำการส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลต่อไป สเตฟาโน โดเมนิคาลี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “ในสถานการณ์ฉุกเฉินนี้เราตระหนักถึงความสำคัญที่จะต้องร่วมแก้วิกฤตเพื่อประเทศชาติและสังคม ซึ่งโรงพยาบาล Sant’Orsola-Malpighi เป็นพาร์ทเนอร์กับเรามานานหลายปี ทั้งการเป็นที่ปรึกษาโครงการวิจัยต่างๆ รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพของพนักงานลัมโบร์กินี เราจะร่วมฝ่าฟันวิกฤตไวรัสโคโรนาด้วยการทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ผู้ซึ่งเป็นด่านหน้าของการต่อสู้กับโรคระบาดนี้อยู่ทุกวัน” ทั้งนี้ ทางลัมโบร์กินีได้มีการเปิดไฟบนอาคารสำนักงานใหญ่ในเมืองซานตากาตา โบโลญเญเซ เป็นสีธงชาติอิตาลีในทุกค่ำคืน เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีและการร่วมต่อสู้กับไวรัส COVID-19 ของประชาชนทั่วประเทศ
“เพราะการป้องกัน ต้องเข้าถึงทุกจุด” บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำของเมืองไทย พร้อมต่อสู้เคียงข้างไปกับบุคลากรทางการแพทย์ ฝ่าวิกฤติ โควิด-19 และสนับสนุนมาตรการเชิงป้องกันการแพร่ระบาดของภาครัฐ โดย นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมผู้บริหารระดับสูง ได้ทำการส่งมอบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าจำนวน 100 คัน ให้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อกระจายสู่สาธารณสุขพื้นที่ 77 จังหวัด นำไปใช้เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการปฎิบัติภารกิจพิชิตเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่บริจาคในครั้งนี้ จะรับหน้าที่สู้ศึกโควิด-19 ในครั้งนี้ ประกอบด้วยรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่, ยามาฮ่า ฟรีโก, ยามาฮ่า แอร็อกซ์155 และยามาฮ่า ฟินน์ โดยแบ่งการส่งมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อกระจายจัดส่งให้สาธารณสุขในพื้นที่ 77 จังหวัดได้นำไปใช้งาน นายพงศธร เอื้อมงคลชัย กล่าวว่า “บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้การสนับสนุนเหล่า “นักรบเสื้อกาวน์” ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่แนวหน้าในการช่วยเหลือ ป้องกัน และพิชิตไวรัส โควิด-19 […]
กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ต้านภัยโควิด-19 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมไทย ประกาศการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท เพื่อสู้วิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประสานความร่วมมือโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ตั้งทีมเฉพาะกิจเปิดสายการผลิตในโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผลิตเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบ (Negative Pressure Mobile Bed) จำนวน 100 เตียง ที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง พร้อมผนึกกำลังจิตอาสาพนักงาน และภาคส่วนต่างๆ อาทิ กรมราชทัณฑ์ เพื่อร่วมผลิตและส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลนอื่นๆ ให้โรงพยาบาล 48 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งมอบบริการรถพยาบาลกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย จำนวน 10 คัน เพื่อใช้สนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิด-19 นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า “จากเจตนารมณ์ของกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ที่ดำรงอยู่และพร้อมให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสังคมไทยมาโดยตลอด โดยในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่ต้องอาศัยการจัดการและความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทางกองทุนฯ ร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย มีความยินดีที่จะมอบความช่วยเหลือฉุกเฉินด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์การขาดแคลนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ” “จากการที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาลได้พัฒนานวัตกรรมเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบ ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ทางกองทุนฯ ได้ประสานความร่วมมือและจัดตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นเพื่อผลิตเตียงฯ 100 เตียง ณ โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า […]
กองทุน ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (Ford Motor Company Fund) หน่วยงานเพื่อสังคมของฟอร์ด เปิดตัวสองกิจกรรมเพื่อสังคมเพื่อให้พนักงานทั่วโลกและผู้ที่สนใจมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมแม้อยู่ที่บ้าน การระดมทุนร่วมกับพนักงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา เป็นความร่วมมือระหว่าง กองทุน ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และการบริจาคทุนส่วนตัวของมร. บิล ฟอร์ด ประธานกรรมการบริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เพื่อนำเงินบริจาคจำนวน 500,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 16.5 ล้านบาท) สมทบกับเงินบริจาคที่ได้รับตามจริงจากพนักงานฟอร์ดทั่วโลกและผู้ที่สนใจ รวมมูลค่าถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 33 ล้านบาท) มอบให้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ได้รับการคัดเลือกจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ร่วมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยเริ่มระดมทุนตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2563 ในประเทศไทย ฟอร์ดพร้อมร่วมมือกับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (Population and Community Development Association หรือ PDA) ซึ่งเป็นองค์กรพันธมิตรกับฟอร์ดมายาวนาน นำรายได้จากการระดมทุนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้มีรายได้และช่วยเสริมทักษะอาชีพจากการทำหน้ากากผ้าและเจลล้างมือ เพื่อแจกจ่ายให้แก่หน่วยงานภาครัฐ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ทำงาน ณ จุดคัดกรองและควบคุมโรคในชุมชนที่ขาดแคลน ในจังหวัดมหาสารคาม ขอนแก่น และบุรีรัมย์ พร้อมต่อยอดการสร้างอาชีพให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบอย่างยั่งยืนด้วยการอบรมอาชีพเกษตรแบบเร่งด่วนเพื่อจุนเจือการบริโภคในครัวเรือนและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว นอกจากนี้ กองทุน ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ยังได้เปิดตัวโครงการ Read and Record ซึ่งเป็นโครงการจิตอาสาผ่านช่องทางออนไลน์ เชิญชวนพนักงานฟอร์ดสร้างห้องสมุดออนไลน์จากการอ่านหนังสือเด็กในภาษาต่างๆ เพื่อส่งต่อให้แก่เด็กและเยาวชนกว่า 1.3 พันล้านคนทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากการปิดโรงเรียน […]
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย บริจาคหน้ากากอนามัยจำนวน 5,000 ชิ้นให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานทางการแพทย์ 5 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระราม 9 โรงพยาบาลสงขลา และสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานี เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ร่วมส่งต่อความห่วงใยให้แก่สังคมไทยในสถานการณ์วิกฤติ ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามแนวทางในการป้องกันการแพร่ระบาดสำหรับพนักงานและลูกค้าอย่างเคร่งครัด เมื่อเร็ว ๆ นี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ประกาศและปฏิบัติใช้มาตรการเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดในเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดทั่วประเทศไทย เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสำหรับลูกค้าและพนักงาน ซึ่งครอบคลุมถึงการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงานและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทุกคน ข้อปฏิบัติสำหรับพนักงานในการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมจัดให้มีน้ำยาล้างมือฆ่าเชื้อในจุดต่าง ๆ การออกมาตรการห้ามไม่ให้พนักงานทุกคนเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงตามที่ได้กำหนดโดยรัฐบาล การทำความสะอาดฆ่าเชื้อผิวสัมผัสบนรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ในโชว์รูมเป็นประจำทุกชั่วโมง ทั้งยังขยายการบริการให้ครอบคลุมความปลอดภัยและความสะดวกสบายของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมากยิ่งขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นำโดย มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา (กลาง) ประธาน และคุณกฤษฎา อุตตโมทย์ (ขวา)ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร ส่งมอบหน้ากากอนามัยให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมีนายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ มัศยาอานนท์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ เป็นผู้รับมอบ
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดตัว NEW MG ZS โฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเอสยูวี ด้วยอีกขั้นของยนตรกรรมภายใต้นิยาม “SMART UP” ยกระดับ สู่การเป็น “สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” และถือเป็นครั้งแรกของเอ็มจีกับการเปิดตัวรถในรูปแบบออนไลน์ ที่สามารถรับชมได้พร้อมกันทั่วประเทศไทย โดยมีแผนเผยโฉมอย่างเป็นทางการสู่สาธารณชน ณ โชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศเร็วๆ นี้ ในครั้งนี้ เอ็มจี ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการเปิดตัว NEW MG ZS โฉมใหม่ ที่ยกระดับไปอีกขั้น และให้ความสมาร์ทและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “SMART UP” กับภาพลักษณ์ของการเป็น “สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” นอกจากการดีไซน์ใหม่ของทั้งด้านหน้าและท้ายรถที่เสริมความสปอร์ตและแฝงความหรูหราที่มากขึ้นแล้ว NEW MG ZS ยังมาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด รวมไปถึงระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ […]
มิตซูบิชิเสริมทัพรถครอสโอเวอร์ด้วย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ ที่มาพร้อมแนวคิด “อีกขั้นกับ SUV ที่เป็นคุณ” โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แข็งแกร่งโฉบเฉี่ยว ครบครันด้วยความอเนกประสงค์และการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตอบสนองการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายระดับพรีเมียม ***พิเศษสำหรับช่วงแนะนำด้วยราคาจำหน่าย 899,000 บาท จนถึง 30 มิถุนายน 2563 นี้*** มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เปิดตัวในประเทศไทยด้วยการบุกเบิกเซ็กเมนท์ครอสโอเวอร์ใหม่เมื่อปี 2561 และในปี 2562 มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มียอดจำหน่ายสูงถึง 16,196 คัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18 ของยอดจำหน่ายทั้งหมดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ มีรูปลักษณ์ที่มีความแข็งแกร่งและทรงพลังยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์ DYNAMIC SHIELD เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เปี่ยมด้วยความทันสมัยและโดดเด่นด้วยเส้นสายเลขาคณิตบนกันชนหน้าและกระจังหน้า มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่พร้อมไฟตัดหมอก LED ขนาดใหญ่ที่ให้ภาพลักษณ์เข้มบึกบึนโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยด้านหน้าที่กว้างขึ้น […]
e-POWER คือ เทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เอกสิทธิ์เฉพาะของนิสสัน ที่มอบประสบการณ์การขับขี่แบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างแท้จริง ขุมพลัง e-POWER เป็นการประยุกต์จากแนวคิดของเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่มีอยู่ในนิสสัน ลีฟ โดยในระบบใหม่นี้มีการติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็กเพิ่มเติมเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟฟ้าพลังงานสูง เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าชาร์จเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ e-POWER ทำให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันดีขึ้นได้ยังไง? การออกแบบให้เครื่องยนต์ทำงานเพียงเพื่อชาร์จไฟเข้าไปในแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวทำให้รอบเครื่องยนต์ทำงานอยู่ในช่วงที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปทั่วไป อัตราเร่งที่ดีและราบรื่นกว่าที่เคยด้วยการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าที่แม่นยำถึง 1/10,000 รอบต่อวินาที e-POWER จึงมีอัตราเร่งที่ทรงพลัง และราบรื่น ประกอบกับแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่จะทำให้รถออกตัวได้เร็วและแรง ในการขับขี่ที่ต้องใช้พลังงานมากอย่างการใช้ความเร็วตอนขับบนทางด่วน เครื่องยนต์จะทำงานร่วมกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในการเก็บประจุแบตเตอรี่ให้สามารถจ่ายไฟกับมอเตอร์ไฟฟ้าได้โดยตรง การขับเคลื่อนระบบ e-POWER Drive (ในโหมด S หรือ ECO) จะช่วยให้เราสามารถเร่งความเร็วและชะลอความเร็วรถโดยใช้เพียงแค่คันเร่งโดยไม่ต้องเหยียบเบรกเพียงแค่ผ่อนคันเร่งเพื่อชะลอความเร็ว การขับขี่แบบคันเหยียบเดี่ยว (One Pedal) ของ e-POWER ช่วยให้การหยุดและออกตัวรถเป็นไปได้อย่างง่ายดายไร้กังวล และอรรถรสความสุนทรีย์ในการขับขี่แม้บนเส้นทางบนภูเขาสุดท้าทาย โดยขณะที่รถกำลังชะลอความเร็วลง การเบรกยังจะช่วยจ่ายพลังงานคืนกลับไปสู่ระบบ เพื่อไปประจุสะสมในแบตเตอรี่ ระบบการขับขี่แบบ e-POWER ให้ความเงียบในการเดินทางเนื่องจากรถยนต์ถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ จึงให้ความเงียบได้เหนือกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไป โดยส่วนมากระบบการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไปจะชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่เมื่อมีการเร่งความเร็วที่สูงมาก ผลก็คือเราจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เพราะเสียงรบกวนบนท้องถนนกลบเสียงของเครื่องยนต์ไว้ เทคโนโลยีที่ช่วยให้การเดินทางสมบูรณ์แบบ: นวัตกรรมยานยนต์จากยนตรกรรมระบบไฟฟ้า เทคโนโลยี e-POWER เปิดตัวเป็นครั้งแรกใน Nissan Note ในปีพ.ศ. 2559 ในประเทศญี่ปุ่น นับแต่นั้นเป็นต้นมา นิสสัน ได้เดินหน้านำเทคโนโลยี e-POWER เข้ามาใช้ใน Nissan Serena ซึ่งเป็นรถตู้คอมแพ็คเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ด้วยหลักการที่ใช้เทคโนโลยีการขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า 100% เฉกเช่นเดียวกับที่ใช้ใน Nissan LEAF เพื่อสร้างแรงบิดได้อย่างทันใจและสมรรถนะในการขับขี่ได้อย่างเร้าใจ ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ e-POWER ประกอบด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง, อินเวอร์เตอร์ (Inverter), เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยรถยนต์จะถูกขับเคลื่อนด้วยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ส่งกำลังในการขับเคลื่อนไปที่ล้อ โดยกระแสไฟฟ้าที่ถูกส่งมายังมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกเก็บอยู่ในแบตเตอรี่กำลังสูง ส่วนเครื่องยนต์สันดาปภายในทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บ เพื่อชดเชยกระแสไฟฟ้าที่ถูกใช้ไป และไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟแบบรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปอีกด้วย เทคโนโลยี e-POWER คือ ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าของนิสสัน โดยนิสสันมีแผนการเปิดตัวรถยนต์เทคโนโลยี e-POWER ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี e-POWER อ่านเพิ่มได้ที่เว็บไซต์ www.nissan.co.th